พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานดินฝังศพเป็นกรณีพิเศษ แก่พลทหาร ริฟวัน เจะเเล  และกองทัพบกปูนบำเหน็จ 7 ชั้นยศ ขอพระราชทานยศ เป็น “สิบเอก” ยกย่องในความทุ่มเทเสียสละปฎิบัติหน้าที่ เพื่อประเทศชาติจนวาระสุดท้ายของชีวิต

163

          วันที่ 13 สิงหาคม  2566 เวลา 13.00 น. ที่ กุโบร์โต๊ะดาตู บ้านตายา ตำบลสุวารี  อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานดินฝังศพเป็นกรณีพิเศษ แก่พลทหาร ริฟวัน  เจะเเล เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 4 กองบังคับการควบคุมสุริโยทัย และขว้างระเบิดแสวงเครื่องใส่ฐานปฏิบัติการขณะทำการลาดตระเวน เหตุเกิดเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2566  และได้ประกอบพิธีทางศาสนาฝังศพ ณ กุโบร์บ้านตายา ตำบลสุวารี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 7  สิงหาคม 2566  โดยมี พลเอก เกรียงไกร  ศรีรักษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานในพิธี พระราชทานดินฝังศพ พร้อมด้วย พลตรี ไพศาล  หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และ ผู้บังคับบัญชา ผู้บังคับหน่วย ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ญาติ และครอบครัวผู้เสียชีวิตร่วมในพิธี

          ขณะที่มีการอัญเชิญดินพระราชทานถึงบริเวณพิธี ญาติและข้าราชการตั้งแถวรับดินพระราชทานโดยเจ้าหน้าที่  จากนั้นประธานในพิธีฯได้อัญเชิญดินพระราชทานวางบนหลุมฝังศพของทหารกล้าที่เสียชีวิต ด้านผู้นำศาสนาอ่านอัลฟาตีฮะ ร่วมสวดดูอาร์ และผู้เข้าร่วมในพิธีต่างยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัยแก่ทหารกล้าที่เสียชีวิต ซึ่งในพิธีมีกองทหารเกียรติยศพลแตร เป่าแตรเคารพ 1 จบ เป็นสัญญานแสดงวันอันเหน็ดเหนื่อยได้ผ่านพ้นไปแล้ว เพื่อเชิดชูเกียรติถึงความกล้าหาญเสียสละของทหารผู้กล้าที่ปฎิบัติหน้าที่ได้อย่างสมเกียรติจนวาระสุดท้าย ซึ่งการได้รับพระราชทานดินฝังศพในครั้งนี้สร้างความปลาบปลื้ม และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณแก่ครอบครัวทหารกล้าที่เสียชีวิตเป็นล้นพ้น โดยมี นางสาวดารีซะ  สมาแอ ผู้เป็นมารดาอ่านสำนึกในพระกรุณาธิคุณ และร้อยโท อภิเชษฐ์ อินทไทร เป็นผู้บังคับบัญชา อ่านประวัติทหารกล้าที่เสียชีวิต ท่ามกลางความปลาบปลื้มแด่ญาติและครอบครัวที่ต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีต่อครอบครัวทหารกล้าที่เสียชีวิต

          พลทหาร ริฟวัน  เจะเเล เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงใส่ชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่กองร้อยป้องกันชายแดนที่ 4 กองบังคับการควบคุมสุริโยทัย และขว้างระเบิดแสวงเครื่องใส่ฐานปฏิบัติการขณะทำการลาดตระเวน ได้เสียชีวิตในวัย 20 ปี เกิดเมื่อวันที่ 18  พฤษภาคม 2546 อยู่บ้านเลขที่ 15/2 หมู่ที่ 1 บ้านตายา ตำบลสุวารี  อำเภอรือเสาะ  จังหวัดนราธิวาส เป็นบุตรชาย ของ นายสูดิง  เจะแล และนางสาวดารีซะ  สมาแอ มีพี่น้องร่วมกัน 1 คน คือ เด็กชาย มูฮัมหมัดเซาวัล เจะแล อายุ 11 ปี โดยพลทหาร ริฟวัน เจะแล ได้สมัครเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการตั้งแต่อายุ 18 ปี โดยการสมัครผ่านระบบออนไลน์ด้วยตนเอง เพราะมีความตั้งใจอยากจะสอบเข้าเป็นนักเรียนนายสิบทหารบก รักในอาชีพทหาร และอยากรับราชการทหาร อุปนิสัยเป็นผู้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่มีอัธยาศัยโอบอ้อมอารี รักหมู่คณะรักพี่รักน้อง เป็นผู้ที่ให้ความเคารพต่อผู้บังคับบัญชา และเป็นผู้ที่มีความอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ ตลอดระยะเวลาที่ได้ปฎิบัติหน้าที่ได้มีความรับผิดชอบทุ่มเทแรงกายแรงใจและสติปัญญาทำงานเพื่อสร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศในฐานะทหารกล้า

          ในโอกาสนี้ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ประธานในพิธีฯ มอบธงชาติไทย เหรียญบางระจัน และใบประกาศเชิดชูเกียรติในการประกอบคุณงามความดี และความเสียสละ เป็นที่เชิดชูเกียรติแก่วงศ์ตระกูล พร้อมมอบเงินช่วยเหลือครอบครัวในเบื้องต้นตามสิทธิของทางราชการและสินไหมประกันชีวิตจากกองทัพบก รวมถึงจากหน่วยงานและส่วนราชการต่างๆ มอบให้แก่ครอบครัวทหารกล้าที่เสียชีวิต เพื่อเป็นการปลอบขวัญ และให้กำลังใจแก่ครอบครัว และญาติที่ต้องสูญเสียผู้เป็นที่รัก ทั้งนี้กองทัพบกได้ปูนบำเหน็จพิเศษ  และขอรับพระราชทานยศสูงขึ้นเลื่อนยศ 7 ขั้น จากพลทหาร ริฟวัน เจะแล เป็น  “สิบเอก ริฟวัน  เจะแล” เพื่อเป็นการตอบแทนคุณความดีในการทุ่มเท รับผิดชอบในการปฎิบัติหน้าที่ และขอยกย่องในความเสียสละปฎิบัติหน้าที่เพื่อประชาชน และประเทศชาติจนวาระสุดท้ายของชีวิต

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า