กำลังเทพสตรี คุมเข้ม โควิด19 พร้อมสกัดตัดเส้นทางยาเสพติด แนวชายแดนไทย-มาเลย์

1168

     วันที่ 26 ต.ค. 63 เวลา 13.30 น. ที่ บริเวณท่าข้าม บาโอ๊ะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส พลตรีศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ตรวจเยี่ยมการทำงานกำลังป้องแนวชายแดนไทย- มาเลเซีย ในการเฝ้าระวังสกัดกั้น  โรคโควิด 19 และการลักลอบขนสิ่งผิดกฎหมาย โดยเฉพาะยาเสพติด หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงมาตรวจเยี่ยมตามแนวชายแดน พื้นที่ภาคใต้  โดยบริเวณท่าข้าม บ้านบาโอ๊ะ ต.โก๊ะจูด อ.แว้ง จ.นราธิวาส ถือเป็นจุดล่อแหลม เนื่องจากเป็นส่วนที่แคบที่สุดของลำน้ำสุไหงโก-ลก สามารถข้ามไปมาได้โดยสะดวก ปัจจุบัน มีร้อยป้องกันชายแดนที่ 1 ทำหน้าที่เฝ้าระวังดูแลพื้นที่  โดยใช้ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ จำนวน 7 ชุด เฝ้าตรวจ เฝ้าระวัง ลาดตระเวนเคลื่อนไหว ตลอด 24 ชม. เสริมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน และชุดเฝ้าตรวจชายแดน ของ ตชด. นอกจากนี้ยังมี Active Finding Team จากหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ร่วมกับภาคประชาชนในพื้นที่เข้ามาช่วยเสริม ให้ความรู้ สร้างความเข้าใจ เป็นหูเป็นตาดูแลในพื้นที่ด้านใน เพื่อไม่ให้มีการหลุดลอดเข้าไปยังพื้นที่ได้

     จากนั้นได้เดินทางไปเยี่ยม ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ บ.น้ำตก อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส  และ บริเวณท่าข้าม กัวลอต๊ะ ตำบลนานาค อำเภอตากใบ เพื่อพบปะตรวจเยี่ยมชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ที่หน้าที่ในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย – มาเลเซีย ผ่านช่องทางท่าข้ามธรรมชาติ โดยกำชับให้กำลังพลปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง ป้องกันตนเอง และเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ก่อนจะมอบสิ่งของอุปโภค เพื่อบำรุงขวัญและกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่  ก่อนจะได้ล่องเรือสำรวจช่องทางธรรมชาติริมแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งตลอดระยะทาง กว่า 30 กิโลเมตร ซึ่งได้มีการวางกำลังสกัดกั้นแนวชายแดนไทย -มาเลเซีย ไว้ตลอด 24 ชม.

     พลตรี ศานติ  ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี กล่าวว่า ขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านมีการแพร่ระบาดของโควิดอย่างหนัก ทั้งพม่าและมาเลเซีย  รัฐบาลมีความเป็นห่วงตามแนวชายแดนอย่างยิ่ง โดยเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ลงมาตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของกำลังป้องกันตามแนวชายแดนไทยเมียนมาร์ จ.ระนอง  โดยได้สั่งการให้กำลังช่วยกันสกัดกั้นไม่ให้มีการหลุดลอดเข้ามายังประเทศได้ จึงได้ลงมาตรวจเยี่ยมการทำงานของกำลังป้องกันชายแดนพร้อมนำข้อห่วงใยของผู้บัญชาการทหารบก และท่านแม่ทัพภาคที่ 4  มาถ่ายทอดสู่กำลังพล ประกอบกับตั้งแต่ 1 ตุลาคม เป็นต้นมาได้มีการปรับกำลังตามแนวชายแดนใหม่   โดยเน้นย้ำให้ ชุด ชป.จรยุทธ์ ช่วยกันสกัดกั้น ไม่ให้มีการลักลอบ โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานต่างด้าว ซึ่งทุกชุด ชป. ต้องลาดตระเวน หมุนเวียน เฝ้าระวังพื้นที่ตลอด 24 ชม. รวมถึงสร้างการรับรู้ให้กับประชาชนให้ตระหนักถึงความสำคัญในการสกัดกั้นป้องกันโควิด 19 ไม่ให้เข้ามาระบาดในพื้นที่  ตลอดแนวชายแดนลำน้ำสุไหงโก-ลก  ระยะทาง 95 กิโลเมตร ต้องซีนเข้ม เฝ้าตรวจ เฝ้าระวัง โดยมีกำลังป้องกันชายแดน กระจายเคลื่อนไหวตรวจตรา ให้มากที่สุด ออกลาดตระเวนประสานการร่วมกันกับ ชุดเฝ้าตรวจชายแดน ของ ตชด.  เพื่อเฝ้าระวัง ดูแลพื้นที่ นอกจากนี้ ต้องระมัดระวังตนเองให้ปลอดภัย เตรียมพร้อมอยู่เสมอ  ทั้งนี้ ได้มีประสานกับประเทศมาเลเซียอย่างใกล้ชิด โดยที่ผ่านมามีการเข้มงวดในการข้ามไปมา ทำให้ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมา ยังไม่พบมีการลักลอบข้ามมา พบเพียงการลักลอบขนของผิดกฎหมาย และยาเสพติด พืชใบกระท่อม ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็สามารถจับกุมได้   ส่วนเรื่องการขนส่งสินค้า จนถึง ตอนนี้ยังไม่มีการเปิดด่าน จะมีก็เพียงการขนสินค้าตามวิถีชีวิตของชาวบ้าน  ซึ่งได้มีการควบคุมดูแล มีการตรวจฉีดพ่นฆ่าเชื้อ ตามที่สาธารณสุขกำหนด เพื่อไม่ให้เชื้อหลุดลอดเข้ามา สำหรับเรื่องปัญหาแรงงานต่างด้าวที่มักจะลักลอบเข้ามาทางพื้นที่ อ. ตากใบ จ.นราธิวาส โดยอาศัยเรือประมงของชาวบ้านเข้ามา ก็ได้สั่งย้ำให้ตรวจตราเป็นพิเศษ ตรวจสกรีนเรือทุกลำที่มาจอดเทียบท่ายังฝั่งไทย  โดยประสานร่วมกับตำรวจน้ำ และฝ่ายปกครองอย่างใกล้ชิด เพื่อช่วยกันดูแลพื้นที่แนวชายแดนไทย-มาเลเซียให้ปลอดภัย

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า