กองทัพภาคที่ 4 ชี้แจงกรณีการทุจริตยักยอกเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี

1186

          ตามที่ได้มีการร้องเรียนผ่านโซเชียลมีเดีย กรณีการทุจริตยักยอกเงินในสหกรณ์ออมทรัพย์ค่ายอิงคยุทธบริหาร จ.ปัตตานี ส่งผลกระทบต่อกำลังพลซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์ดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ดังปรากฎเป็นข่าวไปแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อ 20 มกราคม 2566 พลตรี ปราโมทย์  พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / โมษกกองทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ภายหลังทราบเหตุ พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้มณฑลทหารบกที่ 46 เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานการปฏิบัติกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน สรุปได้ดังนี้

          สหกรณ์ออมทรัพย์ค่ายอิงคยุทธบริหาร ได้จดทะเบียนจัดตั้ง เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2531 มีสถานะเป็นนิติบุคคลอยู่ภายใต้กฎหมายควบคุมตามระเบียบข้อบังคับเป็นไปตาม พรบ. สหกรณ์ปี 2542 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ปัจจุบันมีสมาชิก 856 คน โดยมีกำลังพล สังกัด มทบ.46 เป็นสมาชิก 195 นาย ต่อกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น ตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นการทุจริตโดยเจ้าหน้าที่บัญชีของสหกรณ์ ด้วยการยักยอกเงินสดซึ่งสมาชิกนำมาฝาก โดยไม่ได้นำเข้าบัญชีสหกรณ์ แล้วใช้วิธีตกแต่งบัญชีสร้างหลักฐานเท็จต่อเนื่องติดต่อกันหลายปี และเมื่อพฤษภาคม 2565 สหกรณ์ได้ตรวจพบความผิดปกติจากยอดเงินไม่ตรงกับที่พนักงานบัญชีได้จัดทำขึ้น จึงได้ทำการตรวจสอบ โดยพนักงานบัญชีได้ยอมรับสารภาพว่าได้กระทำการทุจริตจริง เพื่อนำเงินไปเล่นพนันออนไลน์ โดยมีมูลค่าความเสียหายประมาณ 62 ล้านบาท ในการนี้สหกรณ์ออมทรัพย์ค่ายอิงคยุทธบริหารจึงได้ไปแจ้งความดำเนินคดีที่ สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี โดยผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวนและได้รับการประกันตัวออกไป เพื่อรอรับการดำเนินคดี และต่อมาภายหลังเมื่อ 5 สิงหาคม 2565 ผู้ต้องหาได้ฆ่าตัวตายที่บ้านพักส่วนตัวในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา เพื่อหนีความผิด เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หนองจิก ต้องจำหน่ายคดีสิ้นสุดทางอาญา ด้วยเหตุผู้ต้องหาถึงแก่ความตาย ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งเรื่องต่อ ปปง. เพื่อเข้าตรวจสอบคดีทุจริตต่อการปฏิบัติหน้าที่ของสหกรณ์ออมทรัพย์ ค่ายอิงคยุทธบริหาร โดยการตรวจสอบความเสียหายและพฤติกรรมอันเกี่ยวเนื่องจากความผิด เพื่อดำเนินคดีกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในฐานะเจ้าพนักงานบังคับใช้กฎหมายต่อไป ในขณะเดียวกันสหกรณ์ออมทรัพย์ค่ายอิงตยุทธบริหารได้แต่งตั้งทนายความเพื่อร้องต่อศาลจังหวัดปัตตานี ในการขอติดตาม ทวงถามทรัพย์สินคืน รวมทั้งได้จัดทำแผนฟื้นฟูทรัพย์สินความเสียหายและเงินทุนหมุนเวียน รายงานต่อสหกรณ์จังหวัดปัตตานี เข้าดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ต่อไป

          จากกรณีปัญหาที่เกิดขึ้น ถึงแม้ว่าเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นภายในสหกรณ์ออมทรัพย์ ซึ่งมีสถานะเป็นนิติบุคคล โดยหน่วยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับการบริหารจัดการภายในสหกรณ์ก็ตาม แต่เนื่องจากเป็นปัญหาที่มีผู้ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก กองทัพภาคที่ 4 ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าว จึงได้สั่งการให้ มณฑลทหารบกที่ 46 แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อคลี่คลายปัญหา พร้อมตั้งคณะทำงานติดตามเร่งรัดการดำเนินการทางกฎหมายต่อการรับผิดทางคดี และติดตามค่าเสียหายทางแพ่งที่เกิดขึ้น ตลอดจนติดตามการดำเนินการตามแผนฟื้นฟูสหกรณ์ออมทรัพย์ค่ายอิงคยุทธบริหาร เพื่อให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของสมาชิกอย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้สั่งการให้ทุกค่ายทหาร แต่งตั้งคณะกรรมการเข้าติดตามตรวจสอบ การดำเนินการของสหกรณ์ออมทรัพย์ค่ายทหาร และการออมทรัพย์ในรูปแบบต่าง ๆ ภายในหน่วยทหาร เพื่อป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในลักษณะเดียวกันนี้ โดยหากมีการตรวจพบการกระทำความผิดของกำลังพลในสังกัดกองทัพภาคที่ 4 ก็จะไม่เข้าไปแทรกแซงการดำเนินคดีตามกฎหมาย และจะดำเนินการทางวินัยตามลักษณะฐานความผิดขั้นเด็ดขาด ต่อไป

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองทัพภาคที่ 4 (20 มกราคม 2566)

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า