“ถอดบทเรียน เสริมประสบการณ์ สร้างความสำเร็จ” มอบนโยบายผู้บังคับหน่วยระดับกองร้อยที่ปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เสริมคมเล็บเพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน ยึดถือปฏิบัติเป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งระบบ

437

          วันนี้ (11 ธันวาคม 2565) เวลา 09.00 น. ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 จังหวัดปัตตานี พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พบปะมอบนโยบายแก่ผู้บังคับหน่วยระดับกองร้อย ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์และแนวทางการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อใช้ความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่รัฐ ปกป้องพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ปลอดภัยพี่น้องประชาชนมีความสุข ในโอกาสนี้ได้รับเกียรติจาก พลเอก พรศักดิ์  พูลสวัสดิ์ กรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (ฝ่ายความมั่นคง) มาบรรยายพิเศษในเรื่อง “มุมมองของรัฐบาลในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้านความมั่นคง” พร้อมแนะนำแนวความคิดในการปฏิบัติให้แก่กำลังพลภายในพื้นที่อีกด้วย ทั้งนี้ยังมีผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานความมั่นคง อาทิ พลโท อุทิศ  อนันตนานนท์ แม่ทัพน้อยที่ 4, พลตรี ไพศาล  หนูสังข์ รองแม่ทัพภาคที่ 4, พลตรีปราโมทย์  พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4, พลตำรวจตรี ปิยะวัฒน์  เฉลิมศรี รองผู้บัญชาการกองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ พลเอก ธิรา  แดหวา ที่ปรึกษากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมมอบแนวทางข้อเสนอแนะ

          “เป้าหมายชัด โอกาสมี ทางหนีพร้อม นี่คือความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ “ชป.พิทักษ์พื้นที่” เป็นหน่วยกำลังที่เข้าปฏิบัติงานในพื้นที่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน เข้าถึงหมู่บ้าน ร่วมทุกข์ ร่วมสุข กินอยู่หลับนอน สร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ดูแลสิ่งผิดปกติ เพื่อตัดการเชื่อมต่อของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาภายในหมู่บ้าน หรือหมู่บ้านกับชายป่าขอบเขา เพราะฉะนั้น ผู้นำระดับผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับหมวด จะต้องสร้างการรับรู้ การเตรียมการให้กับผู้ปฏิบัติงาน ชป.พิทักษ์พื้นที่ถึงคนสุดท้าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงานควบคุมพื้นที่อย่างได้ผล และปลอดภัย ไม่เกิดการสูญเสีย หรือได้รับบาดเจ็บ” พลเอก พรศักดิ์  พูลสวัสดิ์ ผู้แทนพิเศษรัฐบาล กล่าว

          ด้าน พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า “เราต้องถอดบทเรียนจากสถานการณ์ที่ผ่านมา ศึกษาและแก้ไขจุดบกพร่อง เสริมสร้างประสบการณ์ให้เกิดความสำเร็จ ลูกน้องต้องปลอดภัย ประชาชนต้องมีที่พึ่ง หากเจ้าหน้าโดนกระทำและบาดเจ็บ เราจะปกป้องพี่น้องได้อย่างไร ยิ่งเดือนสุดท้ายของปีก่อนที่จะขึ้นปีใหม่ พื้นที่มีกิจกรรมมากมาย ประชาชนก็เดินทางเข้าออกในพื้นที่มากด้วยเช่นกัน เราต้องเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ทั้งเชิญรับเชิงรุก ไม่ประมาทเป็นอันขาด เพื่อเรียกความศรัทธาของพี่น้องประชาชนกลับคืนมา”

          นอกจากนั้นแล้ว ผู้บังคับกองร้อยจะต้องนำหลักการพื้นฐานในการปฏิบัติพิทักษ์พื้นที่สร้างการรับรู้ให้แก่เจ้าหน้าที่หน้าแนว ทุกนายให้รับทราบและปฏิบัติได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มงวด ในด้านการบังคับใช้กฏหมายต่อผู้ก่อเหตุรุนแรง ต้องปฏิบัติงานภายใต้หลักมนุษยธรรม วางแผนให้ชัดเจน โปร่งใส บูรณาการร่วมกำลังทุกภาคส่วน เพื่อจำกัดเสรีการก่อเหตุ ควบคู่กับการสร้างความเข้าใจต่อผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น พี่น้องประชาชน ตลอดจนเครือญาติถึงความผิดทางกฎหมายในการให้แหล่งพักพิง และการสนับสนุนช่วยเหลือกับผู้ก่อเหตุรุนแรง การปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ ให้ผู้บังคับกองร้อยได้กำกับดูแลการทำงานของกำลังพลอย่างใกล้ชิด ครอบคลุม หมั่นเพิ่มเติมความรู้ ความสามารถให้กับกำลังพลในการปฏิบัติงาน ผู้บังคับกองร้อยต้องรู้จักวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน ของชุดตนเอง เพื่อการปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนนำทีมปฏิบัติในทุกกระบวนการ ทุกขั้นตอน เกิดความปลอดภัย เพื่อให้พี่น้องประชาชนเป็นที่พึ่ง เกิดความเชื่อมั่น ศรัทธาในการทำงาน สร้างสันติสุขในพื้นที่ต่อไป

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า