รองแม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยมหน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 กำชับดูแลทหารใหม่อย่างใกล้ชิดให้มีความภูมิใจในการเป็นทหารอย่างภาคภูมิ เน้นย้ำเฝ้าระวังโรคลมร้อน โรคโควิด-19 และปัญหายาเสพติด

257

          เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2565 พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 /รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า และคณะฯ ตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายแก่หน่วยฝึกทหารใหม่ กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี โดยมี พันเอก พีรพงศ์ วัลภาทิตย์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 152 ,พันโท ถนอมพงษ์ เรืองจันทร์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 ,ครูฝึกและทหารใหม่ร่วมให้การต้อนรับ

          โดย พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4 เปิดเผยว่า ตามที่ผู้บัญชาการทหารบกได้ให้ความสำคัญกับการฝึกทหารใหม่ โดยมีนโยบายสำคัญเพื่อต้องการที่จะให้น้องๆ ทหารใหม่ทุกผลัดที่มีโอกาสมาเป็นน้องเล็กในกองทัพบกได้เกิดความรู้สึกภาคภูมิใจและรู้สึกว่าตัวเองอยู่ได้อย่างมีเกียรติมีศักดิ์ศรีในการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพบกจากเป้าหมายดังกล่าวได้กำหนดนโยบายปรับเปลี่ยนหลักสูตรทหารใหม่จากที่เคยฝึกเป็นระยะเวลา 10 สัปดาห์ เหลือเพียง 6 สัปดาห์ เพื่อต้องการให้น้องๆทหารใหม่รู้จักที่จะปรับเปลี่ยนเรียนรู้การเป็นทหาร การอยู่เป็นหมู่คณะให้เกิดความรัก ความสามัคคี หล่อหลอมเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพและส่วนหนึ่งของประเทศชาติ รวมถึงการปรับเปลี่ยนรูปแบบหลักเกณฑ์การคัดเลือกทหารประจำการ ได้ดำเนินการใน 2 ลักษณะ การคัดเลือกตามระบบปกติ ที่เพิ่มคือผู้ที่ร้องขอสามารถขอเลือกที่อยู่ภูมิลำเนาเพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย และการเปิดสมัครทหารออนไลน์ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2564  ปีนี้เป็นปีที่ 3 ซึ่งในปี 2566 ทางกองทัพบกตั้งเป้าหมายจะรับทหารผ่านระบบสมัครออนไลน์ จำนวน 28,000 กว่าอัตรา ในส่วนของการดูแลสิทธิและสวัสดิการเป็นโอกาสที่ดีของน้องๆ ทหารใหม่ที่จะมีโอกาสในการเข้าสอบคัดเลือกเข้ารับราชการทหารสูงมาก เนื่องจากจะรับน้องๆ ทหารใหม่ที่ผ่านการเป็นทหารแล้วถึง ร้อยละ 80 นอกจากนี้ กองทัพบกยังมีการส่งเสริมให้มีการศึกษาต่อในศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) เพื่อคาดหวังให้ทุกคนจะมาเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพในฐานะข้าราชการประจำได้

          โอกาสนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้ฝากถึงญาติและผู้ปกครองที่มีความห่วงใยต่อลูกๆ หลานๆ ที่ได้เข้ามาเป็นทหารใหม่ และได้มีการตั้งกลุ่มไลน์เพื่อสามารถโทรหรือวิดีโอคอลไปยังครอบครัวได้ รวมถึงข้อห่วงใยของแม่ทัพภาคที่ 4 คือ ด้านสุขภาพโดยเฉพาะโรคลมร้อนทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมถึงมาตราการป้องกันโรคโควิด-19 ตลอดจนปัญหายาเสพติดจะต้องร่วมมือกันแก้ไขปัญหาให้ได้ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีคุณภาพร่วมกันแก้ไขปัญหาความมั่นคงและภารกิจของกองทัพ

          ทั้งนี้ รองแม่ทัพภาคที่ 4 ได้พบปะพูดคุยสอบถามความรู้สึกและให้กำลังใจน้อง ๆ ทหารใหม่ และได้มอบสิ่งของบริโภค พร้อมเยี่ยมสถานที่การเป็นอยู่หลับนอน เครื่องแต่งกายของใช้ประจำตัว สิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัยบริเวณอาคารโรงนอน หลังจากนั้นรองแม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางมายังโรงเลี้ยง ของกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 152 เพื่อร่วมรับประทานอาหารกลางวัน กับน้อง ๆ ทหารใหม่ สร้างความประทับใจและเป็นขวัญกำลังใจอย่างดียิ่งต่อน้อง ๆ ทหารใหม่ และผู้ใต้บังคับบัญชาทุกนาย เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพชีวิตของน้อง ๆ ทหารกองประจำการ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า