พิธีพระราชทานเพลิงศพวีรชนผู้กล้า เหตุลอบวางระเบิดรถยนต์บรรทุกของเจ้าหน้าที่ทหาร ในพื้นที่อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ท่ามกลางความอาลัย

112

        เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2566 เวลา 15.00 น. ณ วัดบางนรา อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นประธานพิธีพระราชทานเพลิงศพ สิบเอก ศุภกร ศิริเสถียร สังกัดกรมทหารราบที่ 151 พลขับชุดยานยนต์ กองบังคับการควบคุมสุริโยทัย ที่เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ลอบวางระเบิดรถยนต์บรรทุกของเจ้าหน้าที่ทหารกองบังคับการควบคุมสุริโยทัย เดินทางรับสิ่งอุปกรณ์ที่หน่วยเฉพาะกิจอโณทัย บนถนนเส้น 42 บริเวณบ้านตันหยงลากอ อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารได้รับบาดเจ็บ 5 นาย เสียชีวิต 1 ราย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา โดยในพิธีพระราชทานเพลิงศพ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 , พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า , พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส , คณะผู้บังคับบัญชาหน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า , หัวหน้าส่วนราชการ , เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตลอดจนคณะญาติ และประชาชนในพื้นที่ ได้เข้าร่วมพิธีเพื่อแสดงความไว้อาลัย

     พิธีพระราชทานเพลิงศพในครั้งนี้จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ เพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายให้กับ สิบเอก ศุภกร ศิริเสถียร โดยเมื่อขบวนอัญเชิญกล่องเพลิงพระราชทานมาถึงบริเวณประกอบพิธี ผู้บังคับบัญชาข้าราชการ เพื่อนทหารตลอดจนครอบครัว และประชาชนในพื้นที่ตั้งแถวรอรับ เจ้าหน้าที่ได้มีการอัญเชิญกล่องเพลิงพระราชทานขึ้นวางประจำจุดเตรียมประกอบพิธี จากนั้นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล กองเกียรติยศเป่าแตรนอน ผู้ร่วมพิธีได้ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แก่วีรชนผู้เสียสละ สร้างความปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อผู้กล้าในวาระสุดท้ายของชีวิต และครอบครัว ญาติผู้เสียชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้

          สิบเอก ศุภกร ศิริเสถียร เกิดเมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2531 ณ ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ในปี 2552 ขณะอายุ 21 ปีได้สมัครเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการสังกัดกรมทหารราบที่ 151 กองพลทหารราบที่ 15 เป็นระยะเวลา 2 ปีในระหว่างเป็นทหารกองประจำการได้ศึกษาต่อระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ตามหลักสูตรการศึกษานอกโรงเรียน เป็นไปตามนโยบายของกองทัพบกที่ส่งเสริมการศึกษาให้แก่ทหารกองประจำการให้มีการศึกษาสูงขึ้นจนจบการศึกษาตามหลักสูตร ต่อมาในปี 2554 หลังจากครบกำหนดรับราชการเป็นทหารกองประจำการแล้ว ได้สมัครเป็นอาสาสมัครทหารพรานสังกัดกรมทหารพรานที่ 11  ปฎิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ระหว่างนั้นกองพลทหารราบที่ 15 เปิดรับสมัครสอบคัดเลือกบุคคลบรรจุเข้ารับราชการ ตำแหน่งพลขับหมู่เครื่องยิงหนัก หมวดเครื่องยิงหนัก กองร้อยเครื่องยิงหนัก กรมทหารราบที่ 151 จึงมุ่งมั่นตั้งใจจนสามารถสอบบรรจุเข้ารับราชการในตำแหน่งดังกล่าวได้ และบรรจุเข้ารับราชการตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน 2556 เป็นต้นมาตลอดระยะเวลาที่รับราชการทั้งในฐานะเป็นทหารกองประจำการ , อาสาสมัครทหารพราน และข้าราชการทหารประจำการ สิบเอก ศุภกร ศิริเสถียร เป็นกำลังพลชั้นดีคนหนึ่งของหน่วยได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชา ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก เป็นผู้มีความรับผิดชอบต่องานในหน้าที่สูงยิ่ง มีอัธยาศัยโอบอ้อมอารี รักหมู่คณะ รักพี่ รักน้อง รักผู้ใต้บังคับบัญชา ทุ่มเทแรงกาย แรงใจ แรงสติปัญญา ทำงานเพื่อชาติ ศาสน์ กษัตริย์ และประชาชน สร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาตินับเป็นอเนกอนันต์ การจากไปของ สิบเอก ศุภกร ศิริเสถียร ในครั้งนี้ สร้างความเศร้าโศกเสียใจแก่ บิดา มารดา และญาติมิตรเป็นอย่างยิ่ง และมิใช่เป็นความสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักยิ่งของครอบครัว ศิริเสถียร เท่านั้น แต่นับว่าเป็นการสูญเสียทรัพยากรบุคคลผู้ทรงคุณค่าของประเทศอีกด้วย

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า