ร่วมพิธีวางหรีดเคารพศพ และรดน้ำศพตำรวจกล้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ส.ต.ต.นันทยศ ชูดวง

164

         วันนี้ 21 เมษายน 2566 เวลา 13.00 น. ที่ วัดพุทธภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางร่วมพิธีวางหรีดเคารพศพและรดน้ำศพ สิบตำรวจตรี นันทยศ  ชูดวง ที่ได้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ คนร้ายลอบวางระเบิด ชุดปฏิบัติการรักษาความปลอดภัยและลาดตระเวนเส้นทาง ชุดเฝ้าตรวจที่ 4410 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 446 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 44 เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย และ เสียชีวิตในเวลาต่อมา 1 นาย คือ สิบตำรวจตรี นันทยศ  ชูดวง โดยมีพลตำรวจโท ณัฐ  สิงห์อุดม ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน เป็นประธานในพิธี โดยเป็นผู้แทนในการวางพวงหรีดเคารพศพในนาม พลเอก ประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี, พลตำรวจเอก ดำรงศักดิ์  กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้านพลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 ได้วางหรีดเคารพศพในนาม พลเอก ณรงค์พันธ์  จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และในนามแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมกับมอบเหรียญบางระจันที่แสดงถึงความกล้าหาญในการทำหน้าที่เพื่อเชิญชูเกียรติให้แก่ครอบครัวตำรวจกล้า ต่อด้วยผู้บังคับบัญชาตามลำดับ ตลอดจนหน่วยงานส่วนราชการในพื้นที่ด้วยความเคารพแก่ศพตำรวจผู้กล้าและไว้อาลัยแก่ครอบครัว นอกจากนั้นแม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วยส่วนราชการต่าง ๆ ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นให้กับครอบครัวของ สิบตำรวจตรี นันทยศ  ชูดวง และกล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดย ศพของสิบตำรวจตรี นันทยศ  ชูดวง นั้น กำหนดจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพ  ณ  ศาลาฉวานุเคราะห์ วัดพุทธภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และตะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพอย่างสมเกียรติต่อไป ด้านผู้บาดเจ็บอีก 1 นาย คือ สิบตำรวจตรี รามวรุฒ  โอกาส ถูกสะเก็ดระเบิด บริเวณลำตัวและขา อาการพ้นขีดอันตราย ปัจจุบันเข้ารับการรักษาตัวยังโรงพยาบาลสงขลานครินทร์

         เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า “ในช่วงเวลาดังกล่าวถือเป็นโค้งสุดท้ายของเดือนรอมฎอน กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมีความพยายามก่อเหตุ และได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการอยู่ตลอดเวลา เหตุจากเจ้าหน้าที่เองมีมาตรการที่คุมเข้มในการควบคุมพื้นที่ช่วงเทศกาลหวังอำนวยความสะดวกให้แก่พี่น้องประชาชนในการปฏิบัติศาสนกิจ จึงเป็นการปฏิบัติตอบโต้ต่อเจ้าหน้าที่รัฐเป้าหมายก็คือเจ้าหน้าที่ อีกทั้งกลุ่มผู้ก่อเหตุยังคงมีการปลูกฝังความเชื่อและยังคงหลงผิด จึงเป็นแรงจูงใจก่อเหตุในช่วงนี้ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ แต่ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เจ้าหน้าที่ยังคงทำหน้าที่คุมเข้มเชิงรุกตลอดเวลา และถึงแม้ว่าวันนี้จะต้องกลับมาทบทวนกลยุทธ์ปรับแผนการปฏิบัติในการรับมือกับผู้ก่อเหตุรุนแรงในการควบคุมพื้นที่ดูแลความปลอดภัยต่อไปก็ตาม ฝากถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ช่วยกันดูแล เป็นหูเป็นตาให้แก่เจ้าหน้าที่รัฐ และต่อต้านการกระทำที่ก่อให้เกิดความสูญเสีย อย่างกรณีเหตุการณ์การทำต่อผู้บริสุทธิ์อย่างไร้มนุษยธรรม หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061 – 173 – 2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า