ลงพื้นที่ ตากใบ นราธิวาส ย้ำมาตรการตามนโยบายป้องกันชายแดน ส่งเสริมความร่วมมือการพัฒนาเศรษฐกิจ และความปลอดภัยเดือนรอมฎอน

142

          วันนี้ 19 มีนาคม 2566 เวลา 10.00 น. พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่ ตากใบ จังหวัดนราธิวาส ประชุมแถลงแผนสกัดกั้นการลักลอบขนย้ายสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดน 4661 ร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ก่อนลาดตระเวนสำรวจเส้นทางแนวชายแดนทางน้ำ พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ชุดป้องกันชายแดน และชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ รักษาความมั่นคงปลอดภัยตามแนวชายแดน ทั้งทางน้ำและทางบก เน้นย้ำนโยบายการปฏิบัติงาน ตามพันธกิจ 3 ประการในการป้องกันชายแดน ไม่ว่าจะเป็นการเฝ้าตรวจและป้องกันชายแดน การจัดระเบียบและการสร้างความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน และการประสานความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน ขณะเดียวกันเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนในเทศกาลเดือนรอมฎอน และสงกรานต์ที่จะถึงนี้

          อย่างไรก็ตาม กำลังเจ้าหน้าที่ต่าง ๆ ที่ปฏิบัติภารกิจในการป้องกันชายแดนนั้น ยังคงตรึงกำลังอย่างเข้มข้นตามนโยบายในการที่จะสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดตามแนวชายแดน ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ยาเสพติด การขนสินค้าหนีภาษี อาชญากรรมข้ามชาติ เพื่อเป็นการป้องกัน สะกัดกั้น การกระทำผิดตามแนวชายแดน โดยที่ผ่านมาประเทศทั้งสองฝ่าย ไทย และมาเลเซียได้หารือแลกเปลี่ยนเพื่อส่งเสริมความร่วมมือยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนทั้งสองประเทศตามแนวชายแดนด้วยดีมาอย่างต่อเนื่อง  โดยเฉพาะด้านการพัฒนาเศรษฐกิจ ที่จะทำคู่ขนานไปกับความมั่นคงปลอดภัย เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ โดยการทำงานนั้นจะต้องประสานความร่วมมือของทุกฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เจ้าหน้าที่รัฐ แม้กระทั่งเครือข่ายภาคประชาชน ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเฝ้าระวังป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย หรือขนย้ายสิ่งผิดกฎหมายเข้ามาภายในประเทศ ซึ่งเป็นไปได้ว่าอาจจะอาศัยช่วงเทศกาลดั่งกล่าวลำเลียงเข้ามา จึงต้องมีการวางแผนเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดให้เข้ากับสถานการณ์

          พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำนโยบายแก่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ กองร้อยป้องกันชายแดน และชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ว่า “ขอให้ดำรงไว้ในมาตรการต่าง ๆ ที่เข้มงวด เพราะแนวโน้มการกระทำความผิดตามแนวชายแดนมีให้เห็นอยู่ตลอด และเป็นการกระทำผิดแบบเดิมๆ คือการลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ซึ่งก็จะมีผู้นำพาและผู้ให้แหล่งพักพิง ตลอดจนยาเสพติด และสินค้าหนีภาษี การปฏิบัติภารกิจของเจ้าหน้าที่จึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เป็นสำคัญ นอกจากหน่วยงานภาครัฐแล้วยังต้องมี ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น เครือข่ายภาคประชาชน เข้ามามีส่วนร่วมผนึกกำลังยับยั้งการกระทำผิดกฎหมายทุกรูปแบบตามแนวชายแดน เจ้าหน้าที่จะต้องปรับเปลี่ยนยุทธวิธีไปตามสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างรู้ทัน เพื่อควบคุมบุคคลหรือสิ่งผิดกฎหมายทุกชนิดผ่านเข้า-ออกตามแนวชายแดน โดยเฉพาะช่องทางธรรมชาติ” ก่อนมอบสิ่งของอุปโภคและบริโภค ให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ให้มีความมุ่งมั่นปฏิบัติงาน เสียสละเพื่อพี่น้องประชาชน ประเทศชาติ ดูแลพื้นที่เเนวชายแดนจนกว่าสถานการณ์บ้านเมืองเป็นปกติต่อไป

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า