พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เปิด “มหกรรมแรงงานไทยจากชายแดนใต้สู่ตลาดแรงงานโลกมุสลิม” พร้อมติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนงาน เดินหน้าสนับสนุนให้ประชาชนกินดี อยู่ดี และอยู่ร่วมกันได้ด้วยความรักสามัคคี

285

          วันนี้ (22 ตุลาคม 2565) เวลา 11.30 น. ณ ศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลเอก ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี / ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) เป็นประธานเปิด “มหกรรมแรงงานไทยจากชายแดนใต้สู่ตลาดแรงงานโลกมุสลิม” และติดตามความก้าวหน้าการขับเคลื่อนงานตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่เน้นให้ประชาชนกินดี อยู่ดี และอยู่ร่วมกันได้ด้วยความรักและสามัคคี พร้อมด้วย นายชัยวุฒิ  ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัล เพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสันติ  พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง, พลเอก ชัยชาญ  ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ร่วมคณะฯ โอกาสนี้ ได้เยี่ยมชมนิทรรศการท้องฟ้าจำลอง จากหอดูดาวเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา สงขลา , เยี่ยมชมนิทรรศการการช่วยเหลือแรงงานไทย จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 และการเตรียมการจัดแรงงานไทยจากจังหวัดชายแดนภาคใต้ไปทำงานยังประเทศซาอุดิอาระเบีย โดยมี พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 , พลเรือตรี สมเกียรติ  ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนพี่น้องประชาชนร่วมให้การต้อนรับ

          พลเอก ประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี / ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า “รัฐบาลได้มีเป้าหมายการทำงานเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้  มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการพัฒนาอย่างทั่วถึง  เกิดประโยชน์ต่อประชาชนทุกระดับ โดยผลงานสำคัญของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ตนเองเป็นประธานฯ มีเป้าหมายคือ “ประชาชนกินดี อยู่ดีและอยู่ร่วมกันได้ด้วยความรักและสามัคคี” วันนี้สิ่งที่ประชาชนเฝ้ารอและมีความหวัง รัฐบาลโดยคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ลงมาขับเคลื่อนงานการพัฒนาในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ต้องทำให้อย่างเต็มที่ และตนเองได้กำชับให้ทุกภาคส่วนทำให้ดีที่สุด เพื่อประโยชน์และความสุขของประชาชนโดยผลงานสำคัญ ประกอบด้วย การแก้ไขปัญหาการว่างงานของประชาชนในพื้นที่ สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์โควิด-19 ได้กว่า 14,500 ราย การขับเคลื่อนความร่วมมือด้านแรงงานระหว่างไทย – ซาอุดิอาระเบีย ที่มีแรงงานไทยกลุ่มแรกจากจังหวัดชายแดนภาคใต้เข้าร่วมงานวันนี้ กว่า 655 คน ความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน เช่น มาเลเซียในการส่งเสริมพัฒนาแรงงานไทยไปประกอบอาชีพอาหาร และบริการร้านอาหารต้มยำกุ้ง แรงงานสวนปาล์ม ยางพารา และประมงอีกกว่า 30,000 ตำแหน่ง งาน การพัฒนางานในระดับหมู่บ้านชุมชน มีเอกชนสนับสนุนที่สำคัญเร่งพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส และเมืองต้นแบบฯ เพื่อให้เกิดงานอาชีพที่หลากหลายสอดคล้องกับวิถีชีวิตประชาชน เช่น อุตสาหกรรมอาหารฮาลาล อุตสาหกรรม BCG เป็นต้น

          โดยในวันนี้รองนายกรัฐมนตรีได้ให้เกียรติเปิดสถาบันภาษานานาชาติ ตั้งอยู่บริเวณ ชั้น 4 ของศูนย์ราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะเน้นการเรียนรู้ภาษาไทย อาหรับ มลายู จีน อังกฤษ และตุรกี โดยร่วมมือกับสถานศึกษาทุกแห่ง เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา แรงงานที่จะไปทำงานต่างประเทศและประชาชนทั่วไป ได้พัฒนาทักษะภาษาให้พร้อมเพื่อติดต่องานประสานงานยังประเทศเป้าหมาย  นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กเล็กให้ได้รับการพัฒนาตามช่วงวัย เช่น ธนาคารของเล่น สื่อสร้างสรรค์และการเรียนรู้ของเด็กเล็ก โดยปี 2566 นี้ ศอ.บต. จะได้จัดทำหอดูดาวจำลองมาไว้ที่นี้ เพื่อเป็นที่เรียนรู้ของด้านวิทยาศาสตร์และดาราศาสตร์ต่อไป  และที่สำคัญสูงสุดของที่วันนี้ คือ การจัดตั้ง “หอเฉลิมพระเกียรติรายอกีตอ” ตามแนวพระราชดำริสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อให้ประชาชนทุกหมู่เหล่า รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ นับตั้งแต่ในหลวงรัชกาลที่ 5 ถึง รัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานวงษ์ที่มีพระมหากรุณาธิคุณพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริทั้งน้อยใหญ่เป็นจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยสายพระเนตรอันยาวไกลที่ต้องการให้พสกนิกรในพื้นที่มีคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีในทุกมิติ

          สำหรับการดำเนินการและความก้าวหน้าของสถานการณ์แรงงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ที่ปัจจุบันมีประชากรอายุ 15 ปีขึ้นไปจำนวนกว่า 2,770,167 คน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน 1,868,606 คน ร้อยละ 67.45 จำแนกเป็นผู้มีงานทำ 1,818,111 คน ร้อยละ 97.32  ผู้ว่างงาน 50,123 คน ร้อยละ 2.68 และกำลังแรงงานที่รอฤดูกาล จำนวน 372 คน ร้อยละ 0.02 ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมกับกระทรวงแรงงานช่วยเหลือด้านอาชีพไปแล้วกว่า 14,626 คน ในการจัดส่งแรงงานไปทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมนอกพื้นที่จำนวน 3,448 คน และสร้างอาชีพทางเลือกให้เข้าร่วมกลุ่มเกษตรกร รวมทั้งวิสาหกิจชุมชน อีกทั้งยังได้ฝึกอบรมทักษะและแนะแนวอาชีพจนสามารถเข้าสู่ตลาดแรงงานได้กว่า 3,226 คน ซึ่งกระทรวงแรงงานได้จัดระบบการอำนวยความสะดวกการทำงานในมาเลเซีย พร้อมทั้งให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ และการปฏิบัติตนตามกฎหมายด้านแรงงานอีกด้วย

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า