ประชุมคณะประสานงานระดับพื้นที่ (สล.3) ครั้งที่ 7/2565 รับฟังข้อเสนอแนะ นำเข้าสู่วาระการพูดคุยเพื่อสันติสุขครั้งต่อไป

234

          วันนี้ (18 สิงหาคม 2565) เวลา 10.30 น. ณ ห้องประชุมโรงแรมปาร์คอินทาวน์ จังหวัดปัตตานี พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมด้วย พันเอก ชลัช ศรีวิเชียร ผู้ช่วยเลขานุการคณะประสานงานระดับพื่นที่ เดินทางมาพบปะ หารือ รับทราบสถานการณ์ ตลอดจนการรับฟังความคิดเห็นต่อการขับเคลื่อนงานการสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุขตามความรับผิดชอบของแต่ละภาคส่วน โดยมี พลโท ธิรา แดหวา รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า / เลขานุการคณะประสานงานระดับพื้นที่ ร่วมให้การต้อนรับและประชุม พร้อมด้วยผู้แทนคณะทำงาน 8 ส่วนงาน ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอในพื้นที่จังหวัดสงขลา ได้ร่วมกันเสนอความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นเสนอ ขอสิทธิของประชาชนในพื้นที่ในการเข้าร่วมประชุมในเวทีต่างๆ / การเปิดเวทีให้ประชาชนได้แสดงออกความคิดเห็น / ให้ผู้นำศาสนาเข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับหลักศาสนาที่ถูกต้อง จากนั้นผู้แทนคณะทำงานของแต่ละจังหวัดร่วมกันส่งหนังสือให้กับ พลเอก วัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะ เพื่อขอยุติความรุนแรงทุกรูปแบบ ทุกห้วงเวลา สร้างสันติให้เกิดขึ้นในพื้นที่ต่อไป

โดย พลเอกวัลลภ รักเสนาะ หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้สัมภาษณ์หลังเสร็จสิ้นการประชุมได้รายงานความคืบหน้าการพูดคุยสันติสุข ระหว่างรัฐบาลไทยกับฝ่ายผู้แทน BRN ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 1 – 2 สิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา ว่าจากความสำเร็จของรอมฏอนสันติสุข จึงเสนอการลดความรุนแรง ระยะที่ 2 ต่อเนื่องเข้าพรรษาสันติ ระยะเวลา 3 – 4 เดือน ที่จะเริ่มตุลาคม 2565 เป็นต้นไป แต่ไม่ได้รับการตอบรับแต่อย่างใด จึงได้ดำเนินการจัดตั้งคณะติดตามสถานการณ์ร่วม และมีกลไกการปรึกษาหารือกับประชาชนในพื้นที่คู่ขนานไปด้วย

          ส่วนการพูดคุยเพื่อสันติสุขครั้งที่ 6 คาดว่าจะเกิดขึ้นในห้วงเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งประเด็นที่จะเสนอในการพูดคุยคือ การลดความรุนแรง ที่ในห้วงที่ผ่านมาเกิดจากการที่ต่างคน ต่างฝ่าย ต่างทำ เปลี่ยนมาเป็นการร่วมมือกันทั้งสองฝ่าย เพื่อทำให้การลดความรุนแรงเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

          สำหรับสถานการณ์รุนแรง 17 จุด ที่เกิดขึ้นล่าสุด ยังไม่ทราบชัดเจนว่าเป็นการกระทำของฝ่ายไหน แต่ในเวทีการประชุมหรือการพูดคุยที่ผ่านมา ทั้งสองฝ่ายก็ยืนยันมุ่งมั่นที่จะทำให้การพูดคุยเพื่อสันติสุขสามารถหาทางออกร่วมกันได้ เพราะฉะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่กระทบต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุข แต่เป็นเหตุที่ทำลายความเชื่อมั่นของพี่น้องประชาชนที่คาดหวังถึงขบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุข และกระทบเศรษฐกิจในพื้นที่

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า