ส่งเสริมการสร้างอาชีพ ตามวิถีความเป็นอยู่ของชุมชน และรณรงค์ประชาสัมพันธ์ข้อปฏิบัติในการถือศีลอดที่ถูกต้องตามหลักการของอิสลาม ในพื้นที่ อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี

353

          วันที่ (26 มีนาคม 2565) เวลา 09.30 น. ที่ สถาบันปอเนาะบ้านอุ่นไอรัก หมู่ที่ 1 ตำบลบาโลย อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี พันเอก กฤศณัฏฐ์  จันทร รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี พร้อมด้วย นายหมัดอารี หมุดแหล๊ะ เจ้าหน้าที่ชำนาญการ ฝ่ายสร้างความเข้าใจ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และร้อยตรี ธีรยุทธ  จันทร์ตุ้น ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี เป็นผู้แทนลงพื้นที่บูรณาการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าพบปะพูดคุยสร้างความเข้าใจ แนะนำส่งเสริมกระบวนการฝึกอาชีพให้กับชุมชน โดยมุ่งเน้นแนวคิดกระบวนการมีส่วนร่วมของชุมชน และการสนับสนุนจากท้องที่ ท้องถิ่น ในการขับเคลื่อนและผลักดันให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพที่มีความสอดคล้องกับวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในชุมชน เพื่อให้เกิดการสร้างรายได้ และคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของประชาชนในพื้นที่ โดยมี พันตรี ประพันธ์  เยาว์นุ่น หัวหน้าฝ่ายกิจการพลเรือน หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 42, นายวาริน  สองเมือง ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 23 ปัตตานี และ นางรีฟีดา  บินสามะ ผู้อำนวยการโรงเรียนวิทยาการบริบาลแคร์เซ็นเตอร์ยะลา ร่วมขับเคลื่อนบูรณาการกระบวนการฝึกอาชีพให้กับชุมชนในครั้งนี้

          ทั้งนี้ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี ได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นในห้วงเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ ให้กับสถาบันปอเนาะบ้านอุ่นไอรัก พร้อมทั้งมอบแผ่นพับประชาสัมพันธ์ที่ทาง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดทำขึ้นเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้พี่น้องไทยพุทธ และไทยมุสลิมได้เห็นถึงความสำคัญของเดือนรอมฎอนที่สำคัญยิ่ง ขั้นตอนการเตรียมตัวเข้าสู่เดือนรอมฎอน แนวทางการปฏิบัติตนในการถือศีลอด เพื่อความถูกต้องและรับผลบุญตรงตามหลักการของอิสลาม และข้อปฏิบัติตนในห้วงเดือนรอมฎอนให้ปลอดภัยไร้โควิด-19 ตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019  รวมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบถึง ประกาศของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เรื่อง ห้ามมิให้ผู้ใดซื้อ – ขาย ใช้ ดอกไม้เพลิง ประทัดและสิ่งเทียมที่ทำให้เกิดเสียงดังทุกชนิด ในห้วงเดือนรอมฎอน หากมีความจำเป็นต้องดำเนินการเคลื่อนย้ายสิ่งของดังกล่าว ให้ขออนุญาต ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เมื่อได้รับอนุญาตจึงสามารถเคลื่อนย้ายได้ ทั้งนี้หากผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี   ศูนย์ประชาสัมพันธ์   กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า