เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายวิสามัญผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต 2 รายในพื้นที่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส

347

          จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 28 ม.ค.65 เวลา 1530 เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ได้ติดตามเป้าหมายกรณีคนร้ายลอบขว้างระเบิดไปป์บอมบ์ใส่ ชตค.ลูโบะบายะ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส และต่อมาสืบทราบว่าคนร้าย 2 คนได้เข้ามาเคลื่อนไหวหลบซ่อนอยู่ภายในห้องเช่า บ.บาโงระนะ ม.5  ต.มะรือโบตก อ.ระแงะ จ.นราธิวาส จึงได้สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เข้าตรวจสอบ ที่บ้านหลังดังกล่าวและกันตัวผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องออกมา เมื่อคนร้ายเห็นดังนั้นจึงได้เปิดฉากยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหนี เป็นเหตุให้กระสุนปืนถูกบริเวณข้อเท้าซ้ายของ อาสาสมัครทหารพราน ธวัชชัย ทินกร สังกัด หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่จึงกันตัว ออกมาจากที่เกิดเหตุ และนำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ปัจจุบันอยู่ในอาการปลอดภัย จากนั้นได้พยายามเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายทั้ง 2 ออกมามอบตัวโดยเชิญผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นรวมทั้ง พ่อและแม่ของคนร้ายมาร่วมเจรจา แต่ในขณะที่พ่อและแม่ของคนร้ายกำลังเจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่นั้น คนร้ายได้ยิงสวนออกมา เจ้าหน้าที่จึงได้กันตัวทั้งคู่ให้ออกมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

          ภายหลังจากทราบเหตุ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 ได้สั่งการกำชับให้หน่วยดำเนินการด้วยการใช้กำลังตามความจำเป็น ใช้กำลังให้น้อยที่สุด ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย จากเบาไปหาหนัก และพยายามเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายยอมออกมามอบตัวเพื่อต่อสู้ทางกฎหมายให้ได้ แต่สุดท้ายคนร้ายทั้ง 2 ราย กลับใช้ความรุนแรงตอบโต้และยิงเข้าใส่เจ้าหน้าที่เป็นระยะ จนกระทั่งวันที่ 29 ม.ค. 65 เวลาประมาณ 1200  เหตุการณ์ได้ยุติลง จากการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่ามีคนร้ายเสียชีวิตจำนวน 2 คน ประกอบด้วย นายอับดุลฮากัม อาแว และ นายมะตอฮา  ยูนุ ทั้งคู่มีประวัติหมายจับป.วิอาญา กรณีเหตุขว้างระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการ ชคต.ลุโบะบายะ อ.ยี่งอ ฯ เมื่อ 22 เม.ย. 64 นอกจากนี้ยังตรวจยึดอาวุธปืน 4 กระบอก เป็น ปลย. เอ็ม 16 เอ 1 จำนวน 1 กระบอก ซึ่งมีประวัติถูกปล้นมาจากกองพันพัฒนาที่ 4 , ปลย. เอ็ม 16 เอ 1 ตัดสั้น  1 กระบอก , ปลย. เอเค 47 จำนวน 1 กระบอก และปืนพก 1 กระบอก รวมทั้งกระสุนและวัตถุระเบิดอีกจำนวนหนึ่ง

          จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามกระบวนการขั้นตอนจากเบาไปหาหนักและยึดหลักกฎหมายอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะ มทภ.4/ผอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งเน้นย้ำการปฏิบัติกับหน่วยตลอดเวลาว่าไม่อยากให้เกิดความสูญเสียทั้งสองฝ่ายโดยให้ใช้การเกลี้ยกล่อมและใช้ความละมุนละม่อมให้มากที่สุด แต่กลุ่มคนร้ายก็ตัดสินใจใช้ความรุนแรงเป็นเหตุให้เกิดความสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้สาเหตุหนึ่งของความรุนแรงอาจเกิดมาจากแนวคิดและความเชื่อทางศาสนาที่ถูกบิดเบือน จึงขอให้ทุกท่านได้ยึดมั่นในหลักการของศาสนาที่ถูกต้อง เพื่อให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่ จชต. ต่อไป

          ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชน พบเห็นความผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ก็สามารถโทรเข้ามาแจ้งเบาะแสได้ที่สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลขโทรศัพท์ 061-1732999 หรือสายด่วย 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน กรุณาอย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดทั้งการให้ที่พักพิงเก็บซ่อนอาวุธ หรือ จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า