แม่ทัพภาคที่ 4 เป็นประธานเปิดศาลาเกรียงไกร  และพิธีสมโภชสมเด็จองค์ปฐม กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 153 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย จังหวัดปัตตานี

576

          วันนี้ 28 ธันวาคม 2564  เวลา 11.00 น. ณ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 153  ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  เป็นประธานเปิดศาลาเกรียงไกร และพิธีสมโภชสมเด็จองค์ปฐม กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 153 เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา และถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สืบอายุพระพุทธศาสนา ตลอดจนเพื่อเป็นศิริมงคลแก่กำลังพล และหน่วย โดยมี พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 เป็นประธานพิธีสงฆ์ในช่วงเช้า พร้อมด้วย พันเอก อิศรา จันทะกระยอม ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 153, ดร. อภิรัชศักดิ์ รัชนีวงศ์ ที่ปรึกษาศูนย์สันติวิธี, พันเอก อรรถพล คงสง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41, พันโท ธนวัฒน์ สายสกุลรัตน์ ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 153, สมาคมแม่บ้านทหารบกสาขา กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 153  และกำลังพลร่วมให้การต้อนรับ

          สำหรับศาลาเกรียงไกร เริ่มก่อสร้าง 24 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมากองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 153 ยังไม่มีพระพุทธรูปประจำกองพัน เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ประกอบกับ​กำลังพลของหน่วยได้ออกปฏิบัติราชการสนามอย่างต่อเนื่องยาวนาน  ผู้บังคับกองพันท่านปัจจุบัน พันโท ธนวัฒน์ สายสกุลรัตน์ จึงมีดำริให้จัดสร้าง สมเด็จองค์ปฐม เพื่อเป็นพระพุทธรูปประจำกองพัน โดยได้รับการสนับสนุนจาก พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และผู้มีจิตศรัทธาทุกภาคส่วนร่วมกันจัดสร้าง เพื่อไว้เป็นที่สักการะบูชา และยึดเหนี่ยวจิตใจของกำลังพลภายในหน่วย

          ทั้งนี้ “สมเด็จองค์ปฐม” คือพระพุทธเจ้าองค์แรกหรือองค์ที่หนึ่ง ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระพุทธสิกขี” แต่พระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้ผ่านไปแล้ว อาจจะมีชื่อช้ำกันได้ โดยเฉพาะชื่อนี้มีด้วยกันถึง 5 พระองค์ จึงเรียกขานกันว่าเป็น พระพุทธสิกขีที่ 1 เด็จองค์ปฐมบรมครูพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 พระองค์จึงเป็นต้นพระวงศ์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุก ๆ พระองค์ จึงสมควรยกย่องพระพุทธองค์ว่า ทรงเป็น “สมเด็จองค์ปฐมบรมครู” อย่างแท้จริง สมัยที่สมเด็จพระพุทธองค์ ได้ทรงอุบัติในโลกมนุษย์ ในเวลานั้นคนมีอายุขัยประมาณ 8 หมื่นปี พระพุทธองค์ทรงผนวชออกมหาภิเนษกรมณ์ เมื่อพระชนมายุได้ 5 หมื่นปี หลังจากทรงผนวชแล้วเป็นเวลาอีก 2 หมื่นปี จึงได้ทรงบรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณตรัสรู้ เป็นองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์แรกของโลก พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนเวไนยสัตว์ อีกประมาณ 2 หมื่นปี จึงเสด็จดับขันธปรินิพาน หลังจากทรงใช้เวลาอันยาวนานถึง 40 อสงไขยกัปในการบำเพ็ญพระบารมี เพื่อแสวงหาพระโพธิญาณด้วยพระองค์เอง ทรงใช้เวลาอันยาวนานในการบำเพ็ญพระบารมี เนื่องจากพระพุทธองค์เป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก จึงไม่มีแบบอย่างที่จะให้พระพุทธองค์ได้ศึกษาเป็นแนวทางในการปฏิบัติ เพื่อบรรลุพระโพธิญาณ ระยะเวลาที่บำเพ็ญพระบารมี จึงใช้ถึง 40 อสงไขยกัปเศษ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า