กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่ติดตามบังคับใช้กฎหมายผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี

346

        วันนี้ (2 สิงหาคม 2564) เวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงข่าวชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบภายในบ้านที่เกิดเหตุบริเวณพื้นที่บ้านโพธิ์ ตำบลลิปะสะโง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี ในวันที่ 2 สิงหาคม 2564 เวลา 03.00 น. ที่ผ่านมา เป็นเหตุให้ นายรอซาลี หลำโซ๊ะ ผู้ก่อเหตุรุนแรงเสียชีวิต

        พันเอก เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า จากกรณี เจ้าหน้าที่ติดตามบังคับใช้กฎหมาย เพื่อควบคุมตัวผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่บ้านโพธิ์ ต.ลิปะสะโง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เมื่อเวลา  03.00 น. การปฏิบัติดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากแหล่งข่าวหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี รวมทั้งแหล่งข่าวภาคประชาชน แจ้งว่าในห้วงที่ผ่านมาได้ปรากฏความเคลื่อนไหวผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนในพื้นที่ จึงได้สนธิกำลัง 3 ฝ่าย เข้าพิสูจน์ทราบภายในบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านของภรรยา นาย รอซารี หลำโสะ และ นาย รอซารีฯ ได้หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตามกรรมวิธีขั้นตอนด้วยการกันตัวบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากบ้านและบริเวณใกล้เคียง ใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ด้วยการเจรจาเกลี้ยกล่อมให้นาย รอซารีฯ ออกมามอบตัว โดยเจ้าหน้าที่ส่วนหนึ่ง ได้ไปหาบิดามารดาของ นาย รอซารีฯ ที่ ต.ลำไพล อ.เทพา จ.สงขลา เพื่อให้มาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมอีกทางหนึ่ง แต่ไม่ได้รับความร่วมมือ จึงได้ประสานให้ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนา ซึ่งอยู่ในบริเวณใกล้เคียงเข้าช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อมแต่ไม่เป็นผล จนในที่สุดหลังจากเจ้าหน้าที่พยายามกดดันอย่างหนัก นาย รอซารีฯ ซึ่งหลบซ่อนอยู่ในบ้านได้ใช้อาวุธปืนพก ขนาด 9 มม. ยิงเปิดทางและพยายามหลบหนี จึงได้เกิดการยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ขึ้น เป็นผลให้ นาย รอซารีฯ เสียชีวิต อยู่บริเวณหลังบ้านดังกล่าว

        ทั้งนี้ นาย รอซารี หลำโสะ ผู้ก่อเหตุรุนแรง ระดับแกนนำสั่งการและปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา 9 หมาย ที่สำคัญ ประกอบด้วย เหตุขว้างระเบิดเพลิง และใช้อาวุธปืนสงคราม ยิงใส่สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2561 เหตุฆ่าชิงทรัพย์เอาศพไปทิ้งคลอง เสียชีวิต 2 ศพ และนำรถยนต์ประกอบระเบิด พื้นที่ ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2560 เหตุปล้นรถจากเต็นท์รถวังโต้ คาร์เซ็นเตอร์ พื้นที่ ตำบลนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2560 สถานีตำรวจภูธรควนโดน จับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงและยึด M-16 พื้นที่ หมู่ 1 ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2560 เหตุปล้นร้านทองสุธาดาพื้นที่ อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2562 เหตุขว้างระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ พื้นที่ บ้านนาจวก ตำบลท่าม่วง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2560 เหตุตรวจค้นรถยนต์ พบกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. จำนวน 90 นัด พื้นที่ ตำบลลำไพล อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2562 เหตุยิง สิบตำรวจเอก เฉลิมพล คมขำ เสียชีวิต และยิงเข้าใส่ สถานีตำรวจภูธรนาประดู่ พื้นที่ หมู่ 1 ตำบลทุ่งพลา อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2562 เหตุยิงร้อยตำรวจโท วีระศักดิ์ สารพร รองสารวัตร สถานีตำรวจภูธรโคกโพธิ์ เสียชีวิต ถนนสาย 42 หน้าโรงพยาบาลโคกโพธิ์ บ้านมะกรูด หมู่ 6 ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2563

        ภายหลังทราบเหตุ พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจมายังญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต ทั้งยังกำชับหน่วยให้ดำเนินการตามขั้นตอน โดยใช้กำลังเท่าที่จำเป็นใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก ตลอดจนเชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำศาสนาพื้นที่ รวมทั้งญาติของผู้ก่อเหตุรุนแรง พูดคุย เจรจาเกลี่ยกล่อม ให้ยอมเข้ามอบตัว และมีการปฏิบัติอย่างรัดกุม แต่คนร้ายได้เปิดฉากยิงใส่ก่อน จึงจำเป็นต้องตอบโต้ จนนำไปสู่ความสูญเสียดังกล่าว ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนได้มีความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งได้ดำเนินการติดตามในทุกคดีที่เกิดขึ้น ด้วยความระมัดระวัง อย่างไรก็ตาม กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่โทรเข้ามาแจ้งเบาะแสให้แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ทราบโดยตรง หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ หรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวในพื้นที่ สามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061 – 173 – 2999 หรือเบอร์สายด่วน 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า