จากกรณี เรือท่องเที่ยว POLARIS ONE จ.ระนอง ถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาร์ควบคุมพร้อมนักท่องเที่ยวและลูกเรือกว่า 24 คน ซึ่งประกอบด้วยคนไทย 22 คน และชาวพม่า 2 คน ด้วยเหตุนำนักท่องเที่ยวไปตกปลาแล้วเกิดเรือเสียลอยลำเข้าไปยังน่านน้ำประเทศเมียนมาร์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2563 ที่ผ่านมา ซึ่ง ความคืบหน้าการช่วยเหลือขณะนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล จังหวัดระนอง (ศรชล.), หน่วยเฉพาะกิจทหารราบที่ 25 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 เจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 จังหวัดระนอง และสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดระนอง ได้เร่งประสานเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ถูกควบคุมตัว ทั้ง 24 คน เป็นการด่วน
ล่าสุด พลตรี ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 /ผู้บัญชาการกองกำลังเทพสตรี ได้ลงพื้นที่ มายังท่าเรือแกรนด์ อันดามัน ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง ติดตามการให้ความช่วยเหลือทั้ง 24 คน โดยได้ประสานเจ้าหน้าที่ฝั่งประเทศเมียนมาร์ จัดส่งของใช้จำเป็น อาทิ เครื่องนอน เครื่องใช้ สิ่งของอุปโภค บริโภค ตลอดจนวัสดุ อุปกรณ์ ที่สำหรับใช้ป้องกันโควิด 19 ได้แก่ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อโรค ไปให้ทั้ง 24 คน ที่เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น รวมทั้งพบปะพูดคุยกับญาติ เพื่อคลายความกังวลใจ พร้อมเตือนอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ กลุ่มนายหน้า ที่แอบอ้าง หลอกเรียกรับเงินเป็นค่าดำเนินการช่วยเหลือเพื่อนำตัวผู้ถูกควบคุมตัวกลับมาฝั่งไทย
พลตรี ศานติ ศกุนตนาค ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 5 กล่าวว่า แม่ทัพภาคที่ 4 พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ หลังได้ทราบเรื่องดังกล่าว มีความห่วงใยในสวัสดิภาพ ความเป็นอยู่ของผู้ที่ถูกควบคุมตัวในประเทศเมียนมา ทั้ง 24 คน เป็นอย่างยิ่ง เพราะอย่างที่ทราบกันว่าในเมียนมาร์ตอนนี้มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 แม่ทัพภาคที่ 4 จึงให้กองกำลังเทพสตรี ซึ่งดูแลพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย – เมียนมาร์ ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อช่วยเหลือดูแลสวัสดิภาพของผู้ที่ถูกควบคุมตัว โดยเบื้องต้นได้จัดส่งสิ่งของเครื่องใช้จำเป็นต่อการดำรงชีพ โดยเฉพาะวัสดุ อุปกรณ์ที่ใช้ป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเช่นหน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ไปให้กับผู้ที่ถูกควบคุมตัว พร้องทั้งได้มาพบปะพูดคุยกับญาติ แจ้งความคืบหน้าการติดตามช่วยเหลือ เพื่อคลายความกังวลใจ แต่สิ่งที่น่าเป็นห่วงในตอนนี้คือ มีกลุ่มมิจฉาชีพ ซึ่งแอบอ้างเป็นนายหน้าติดต่อเข้ามายังญาติของผู้ที่ถูกควบคุมตัว โดยกล่าวอ้างว่า สามารถดำเนินการเดินเรื่องต่างๆ เพื่อช่วยเหลือได้ ตรงนี้ขอยืนยันพร้อมแจ้งเตือนไปยังญาติทุกคนว่า การให้ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายดำเนินการโดยไม่มีการเรียกรับเงินหรือมีค่าดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น อย่าหลงเชื่อผู้ไม่หวังดี ที่อาจหาผลประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว ทั้งนี้ขอให้ประสานสอบถามมายังเจ้าหน้าที่โดยตรง สำหรับความคืบหน้าการช่วยเหลือทั้ง 24 คน ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานเพื่อขอให้ทางเมียนมาปล่อยตัวคนกลับมา ซึ่งการพูดคุยเป็นไปในทิศทางที่ดี เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายต่างเร่งประสานในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่ ขอให้ญาติได้คลายความกังวลตรงส่วนนี้ คาดน่าจะมีข่าวดีเร็วๆนี้
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า