กอ.รมน.ภาค 4 สน. และ กกล.ตร.จชต. บูรณาการกำลังหน่วยงานความมั่นคงทุกภาคส่วนในพื้นที่แถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ พร้อมของกลางยาบ้า 1 พันเม็ด ไอซ์กว่า 200 กก. มุ่งเดินหน้าปราบปราม จับกุม ผู้ค้ายาเสพติดต่อเนื่อง

638

         วันนี้ (19 กุมพาภันธ์ 2567) เวลา 09.00 น. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า / กองกำลังตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ พลตรี กรกฎ  ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ร่วมแถลงการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยมี พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์  เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, พลตำรวจตรี นิตินัย  หลังยาหน่าย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9, นาย วันชัย  เพชรรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักบังคับใช้กฎหมาย สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 9 และ พันตำรวจโท พิรยุทธ  ห่อเพชร สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ / หัวหน้าชุดปราบปราบยาเสพติด กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญฯ

         โดย พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์  เฉลิมศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9  เปิดเผยว่า พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นแหล่งแพร่ระบาด เป็นจุดพักยา และเป็นเส้นทางลำเลียงไปสู่ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ระดมสรรพกำลังขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาล โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ทำการจับกุมเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายสำคัญ จำนวน 1 เครือข่าย ดังนี้

         เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2567 ได้จับกุม นายอรรคเดช หรือ ลี โคตรสมบัติ อายุ 22 ปี ภูมิลำเนา หมู่ที่ 7 ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส พร้อมของกลาง ยาบ้า จำนวน 1,000 เม็ด เหตุเกิดในพื้นที่บ้านกูแบบาเดาะ ซอยไชยา 2 หมู่ที่ 7 ตำบลมะรือโบตก อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และได้ทำการยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด เพื่อตรวจสอบ จำนวน 4 รายการ มูลค่าประมาณ 1.8 ล้านบาท

          ต่อมาเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนขยายผล เพื่อทำลายเครือข่าย และเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2567 สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติม พร้อมของกลาง ประกอบด้วย ไอซ์ น้ำหนักประมาณ 210 กิโลกรัม, รถบรรทุกพ่วง จำนวน 1 คัน และโทรศัพท์มือถือพร้อมซิมการ์ด จำนวน 4 เครื่อง ผู้ต้องหาจำนวน 2 คน คือ

  1. นายอันวา หรือเปาะเอะ สาแม อายุ 34 ปี อาศัยอยู่ หมู่ที่ 3 ตำบลเฉลิม อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส
  2. นายมูฮำหมัด ยูสมิง หรือ มิน คือแม อายุ 24 ปี อาศัยอยู่ หมู่ที่ 13 ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์หรือไอซ์) อันมีลักษณะเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเป็นการทำให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความปลอดภัยของประชาชนทั่วไปโดยผิดกฎหมาย เหตุเกิดที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 155 ริมถนนทางหลวงสาย 42 ปัตตานี – นราธิวาส ตำบลละหาร อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี

          ด้าน พันตำรวจโท พิรยุทธ  ห่อเพชร สารวัตรกองกำกับการสืบสวน 2 กองบังคับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ระบุว่าพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งมีพฤติการณ์ร่วมกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในพื้นที่ ภาคเหนือ และเครือข่ายนักค้ายาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน ทำการลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดไอซ์ จากพื้นที่ภาคกลางมาส่งจำหน่ายให้กับเครือข่ายในพื้นที่ภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน มีลักษณะเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ  จากการสืบสวนทราบว่า มีนักค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เครือข่ายพ่อเลี้ยงชาวเหนือ ได้ร่วมกันลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในพื้นที่ และ ส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่างต่อเนื่อง และที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมสามารถติดตามจับกุมบุคคลในเครือข่ายได้จำนวนหลายราย และได้ทำการขยายผลเพื่อทำลายเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง กระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ร่วมกันทำการสืบสวนจับกุมบุคคลในเครื่อข่ายชื่อ นายอรรคเดช หรือ ลี โคตรสมบัติ เป็นคนพื้นที่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส ได้พร้อมยาบ้าของกลางดังกล่าวข้างต้น โดยจับกุมได้ในพื้นที่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และได้ทำการขยายผลเพื่อจับกุมบุคคลในเครือข่ายเพิ่มเติม และจากการสืบสวนขยายผลทราบว่ามีบุคคลในเครือข่ายชื่อ นาย อันวา หรือ เปาะเอะ สาแม ได้มีการติดต่อกับเครือข่ายในพื้นที่ภาคเหนือในการเตรียมการที่จะลักลอบลำเลียงยาเสพติดชนิดไอซ์ล็อตใหญ่ จากพื้นที่ภาคกลาง เพื่อส่งจำหน่ายให้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้รถยนต์บรรทุกขนาดใหญ่ในการซุกช่อนลำเลียงยาเสพติด  จึงได้ประชุมวางแผน ทำการสืบสวนติดตามจับกุม กระทั่งทราบข้อมูลยานพาหนะที่เครือข่ายดังกล่าว ใช้ในการลำเลียงยาเสพติดครั้งนี้ จากนั้นได้วางแผนจัดกำลังเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของรถยนต์เป้าหมายต่อเนื่อง กระทั่งในวันเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้ทำการติดตามและตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหาได้จำนวน 2 คน พร้อมของกลางที่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 155 ริมถนนทางหลวงสาย 42 ปัตตานี – นราธิวาส ตำบลละหาร  อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี

          ในการนี้ได้ทำการตรวจยึดทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด เพื่อดำเนินการตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 จำนวน 7 รายการ มูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท สำหรับบุคคลในเครือข่ายที่ร่วมกระทำผิดอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขออนุมัติศาลออกหมายจับและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

          อย่างไรก็ตามขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงที่จะนำความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินมาให้พี่น้องประชาชน ทั้งนี้ ขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิบัติการด้วยการช่วยเเจ้งเบาะเเสผู้ค้า หรือเครือข่ายการกระทำผิด ที่ช่องทางต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐ หรือศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด / อำเภอ หรือที่สายด่วน 1567 เพื่อเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า