รองนายกฯ ลงใต้ ติดตามโครงการชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืน ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล

65

         วันนี้ (12 มกราคม 2567) เวลา 14.00 น. นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลเอก เกรียงไกร  ศรีรักษ์ ประธานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ เดินทางปฏิบัติภารกิจในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยลงพื้นที่  ณ  วิทยาลัยการอาชีพสุไหงโก-ลก ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เพื่อติดตามผลการดำเนินงาน โครงการ “ชุมชนบำบัดอย่างยั่งยืนในตำบลแพร่ระบาดยาเสพติดสูงสุด 100 ตำบล” ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ตระหนักถึงความสำคัญในการแก้ปัญหายาเสพติดอย่างยั่งยืน ซึ่งกำชับไปยังทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหา และปกป้องการแพร่ระบาดของยาเสพติด โดยเฉพาะในกลุ่มของเด็ก และเยาวชน ที่ถือเป็นกำลังหลักในอนาคต โอกาสนี้ พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้รับฟังบรรยายสรุปการดำเนินงานที่ผ่านมา พร้อมหารือ และติดตามผลการดำเนินการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ก่อนลงพื้นที่ดูแนวทางการบำบัดยาเสพติด โดยใช้หลักศาสนาอิสลาม  ณ  มัสยิดอัลเราะห์มาน นอกจากนี้คณะยังได้พบปะ พูดคุยกับกลุ่มบำบัดยาเสพติดชุมชนยั่งยืนสุไหงโก-ลก สอบถามปัญหาข้อขัดข้องต่าง ๆ ตลอดจนให้กำลังใจในการบำบัดยาเสพติด ให้ตนเองสามารถดำเนินชีวิต และกลับมาดูแลครอบครัวของตนเองได้

          นายอนุทิน  ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี / รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า “วันนี้เป็นโอกาสที่ดี ที่ได้มาติดตามผลการปฏิบัติงานด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ จะเห็นได้ว่าการทำงานที่ผ่านมาเกิดจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการสร้างความเข้าใจร่วมกันที่จะปราบปรามยาเสพติดให้หมดไปจากพื้นที่ โดยเฉพาะความร่วมมือกันจาก 3 ฝ่าย ทั้ง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จนสามารถสกัดกั้นกระบวนการค้ายาเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ ได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีมอบนโยบายให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการด้านการแก้ไขปัญหายาเสพติด และภัยแทรกซ้อนต่าง ๆ อย่างเต็มกำลัง ไม่ว่าจะเป็น การพนัน การค้ามนุษย์ หรือแม้กระทั้งการค้าประเวณี มุ่งเน้น และยึดถือคำว่า “อย่าให้ผู้มีอิทธิพลมาทำร้ายประชาชน” นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำครอบคลุมไปถึงเรื่อง ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนอีกด้วย ที่ผ่านมานั้นผลสัมฤทธิ์ของงานนั้นถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดีมาก การทำงานมีความรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ จนทำให้พี่น้องประชาชนเกิดความมั่นใจและอุ่นใจต่อการทำงานมากขึ้นเช่นกัน”

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า