แม้เหตุการณ์จะผ่านมากว่า 1 สัปดาห์ การช่วยเหลือชาวมูโนะยังคงเดินหน้าต่อไป หลากหลายหน่วยงานลงพื้นที่อย่างหนัก เพื่อคืนสภาพความเป็นอยู่ ทั้งร่างกายและจิตใจพี่น้องที่ได้รับผลกระทบคืนกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ขณะที่ความพยายามของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงสร้างสถานการณ์เหมือนจะคอยซ้ำเติม

          วันที่ 6 สิงหาคม 2566 เวลา 13.30 น. พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การให้ความช่วยเหลือ พร้อมติดตามความคืบหน้าการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากเหตุโกดังเก็บประทัด และดอกไม้เพลิงระเบิด ในพื้นที่มูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ทำให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง พี่น้องประชาชนกว่า 2,513 คนได้รับผลกระทบ บ้านเรือนได้รับความเสียหายกว่า 682 หลังคาเรือน ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ประชาชนหลายครอบครัวหมดเนื้อหมดตัวไร้ที่อยู่อาศัย

          ซึ่งจากการสำรวจและ ประเมินความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แบ่งพื้นที่สำรวจความเสียหายบ้านเรือนทรัพย์สินแต่ละโซนโดยผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ และมีหน่วยงานทุกภาคส่วนร่วมสนับสนุน เร่งให้การช่วยเหลือประชาชน ในส่วนของกองทัพภาคที่ 4 นั้นแบ่งหน้าที่ความรับผิดชอบร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ อำนวยการปฏิบัติทางทหารสนับสนุนการปฏิบัติให้กับศูนย์ราชบัญชาการเหตุการณ์ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ ตั้งแต่วันเกิดเหตุจนถึงปัจจุบัน ทั้งการค้นหา ขนย้ายผู้บาดเจ็บ บรรเทาและระงับภัยที่เกิดขึ้น สนับสนุนรถครัวสนาม รถประกอบเลี้ยง รถน้ำดื่ม เพื่อจ่ายให้กับพี่น้องประชาชนให้เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน พร้อมทั้งลงไปสำรวจซ่อมสร้างที่อยู่อาศัยบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย สำหรับศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่สนามกีฬามูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ปัจจุบันยังคงมีประชาชนครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบอาศัยอยู่จำนวน 9 ครัวเรือน 46 คน  อาศัยอยู่ชั่วคราวในระหว่างรอให้เจ้าหน้าที่ซ่อมแซมสร้างบ้านให้แล้วเสร็จ ซึ่งขณะนี้มีทหารชุดช่างเข้าไปซ่อมแซมสร้างบ้านให้ประชาชนแล้วบางส่วน  เพราะทหารพร้อมเป็นที่พึ่งให้ประชาชน ทำด้วยใจเกินร้อยเพราะคือหน้าที่ และด้วยใจที่เป็นจิตอาสา ประกอบกับน้ำใจคนไทยไม่ทิ้งกัน  ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ได้เยี่ยมให้กำลังใจทหารชุดช่างที่เข้าไปดำเนินการซ่อมแซมสร้างบ้านให้กับประชาชนครั้งนี้ว่า  “อย่างน้อยเรายังมีบ้านให้อาศัย แต่ประชาชนผู้ที่ยากไร้กว่าหลายครัวเรือนไม่มีแม้ที่อยู่อาศัย ขอให้ทหารทุกคน เตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมร่างกายให้พร้อม ในการช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มขีดความสามารถของกองทัพบกที่จะมอบให้แก่ประชาชนชาวมูโนะ”

          สำหรับความคืบหน้าในการซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน ปัจจุบันซ่อมแซมแล้วเสร็จ 226 หลังคาเรือน คิดเป็นร้อยละ 33.13 โดยหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาสได้จัดชุดช่างให้การสนับสนุน กว่า 6 ชุดปฏิบัติการจากหน่วยต่างๆ ซึ่งประกอบไปด้วยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพราน และ บก.ควบคุมสุริโยทัย นอกจากนี้ ยังมีผู้มีจิตศรัทธาช่วยเหลือด้วยยอดเงินบริจาคกว่า 22 ล้านบาท ส่วนที่หลายคนมีความเป็นกังวลเรื่องการเก็บประทัด และดอกไม้เพลิงที่ยังหลงเหลือในที่เกิดเหตุ ปัจจุบัน ได้ทำการฝากเก็บรักษาไว้ ณ คลังวัตถุระเบิด ของกรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนาเป็นที่เรียบร้อย และปิดช่องทางข้ามแดนตามธรรมชาติทุกช่องทางเพื่อป้องกันการลักลอบการขนย้ายสิ่งของผิดกฎหมายต่างๆ ทั้งฝั่งขาเข้าและฝั่งขาออกนอกประเทศเพื่อนบ้าน

          ด้านความช่วยเหลือขณะนี้ เจ้าหน้าที่ และหน่วยงานต่างๆได้เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มูโนะฯอย่างต่อเนื่องและเร่งด่วน เพื่อให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด แต่ช่วงเวลาขณะเดียวกันด้านผู้ก่อเหตุรุนแรงก็ยังคงใช้ความพยายามในการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจต่อเจ้าหน้าที่รัฐ และหวังผลต่อชีวิตเจ้าหน้าที่รัฐที่มาช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ประสบภัย นับเป็นการซ้ำเติมและสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนชาวอำเภอสุไหงโก-ลก ด้วยสถานการณ์ดังกล่าวเจ้าหน้าที่จะต้องทำงานควบคู่กันไปกับการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน  ซ้ำยังต้องคอยระมัดระวังการก่อเหตุจากจากกลุ่มผู้ก่อเหตุอีก  จากเหตุการณ์ดังกล่าว แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมส่วนที่เกี่ยวข้องลงไปตรวจที่เกิดเหตุ คาร์บอมส์ใกล้จุดตรวจอรกานต์ อำเภอสุไหงโก-ลก บริเวณใกล้ๆ เป็นฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดหน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาส 93 เขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก เหตุเกิดเมื่อเวลา 20.05 น. ของวันที่ 5 สิงหาคม 2566 ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นคนร้าย ประกอบด้วย ผู้ที่ขับรถยนต์ จำนวน 1 คน ผู้ที่ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ จำนวน 1 คัน และผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ตามมาด้านหลังโดยมีผู้นั่งซ้อนท้ายมาด้วยโดยแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ ได้ขับรถผ่านจุดตัดรถไฟแล้วเปิดไฟเลี้ยวซ้ายจอดแช่อยู่กลางถนนทำทีว่ารถเสีย จากนั้นจึงมีรถจักรยานยนต์ตามมาประกบ ผู้ขับรถยนต์ได้เปิดประตูรถออกมาแล้วซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีไปเส้นทางเลี่ยงเมืองสุไหงโก-ลก โดยก่อนหลบหนีออกไปได้ใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ป้อมตำรวจหวังล่อให้ออกมาจากที่ตั้งก่อนการจุดระเบิดด้วยนาฬิกาดิจิทัล จากการตรวจสอบไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุครั้งนี้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ปิดเส้นทางเข้าออกทั้ง 4 ด้าน เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ชุดEODและเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบและเก็บหลักฐานในวันที่ 6 สิงหาคม 2566 โดยมีการยิงทำลายถังแก๊สปิคนิคที่พบในบริเวณดังกล่าวอีกจำนวน 1 ถัง ซึ่งจากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุพบซากรถยนต์ที่แหลกละเอียด ภายในรถพบเศษชิ้นส่วนถังแก๊สปิคนิค 1 ถัง และพบอีก1ถังที่ประกอบระเบิดไว้แต่ไม่ทำงานโดยเจ้าหน้าที่ EOD ได้ยิงทำลายไปแล้ว  ขณะนี้เส้นทางดังกล่าว ยังคงปิดการสัญจรงดใช้ชั่วคราว

          ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชนช่วยกันเเจ้งเบาะเเส หรือหากทราบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐได้เข้าไปเกี่ยวข้อง หรือมีผู้ใดเข้าไปเกี่ยวข้อง หรือผู้ที่ลักลอบ จำหน่าย และเก็บวัตถุดอกไม้เพลิง ประทัด ต่างๆ ในพื้นที่ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในพื้นที่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อจะได้ไปตรวจสอบดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า