รอง.ผอ.รมน.ภาค 4 สน. รุดตรวจสอบเหตุลอบวางระเบิด ชคต.นาเตย โกตาบารู และเหตุระเบิดรถขนขยะ อบต.ลางา แม่ทัพภาคที่ 4 ย้ำจะเร่งดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุโดยเร็ว

515

          วันนี้ 21 มิถุนายน 2565 พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า/รองแม่ทัพน้อยที่ 4 พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา,พันเอก อนุชา โนนคู่เขตโขง รองผู้บังคับกองบัญชาการควบคุมสมาชิกอาสารักษาดินแดน จังหวัดชายแดนภาคใต้, พันเอก สิทธิศักดิ์ เจนบรรจง รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา และนาย เอกนัฎฐ์ สังขพันธ์ นายอำเภอรามัน ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบจุดเกิดเหตุคนร้ายลอบปาระเบิดใส่ ชุดปฏิบัติการชุดคุ้มครองตำบลโกตาบารู บ้านนาเตย หมู่ที่ 2 ตำบลโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด  และในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบวัตถุต้องสงสัย ซึ่งเป็นกล่องใบใหญ่ จำนวน 1 กล่อง ภายในมีเศษเหล็กจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ ชุดเก็บกู้และทำลายวัตถุระเบิด (EOD) และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานที่ 10 ยะลา เข้าตรวจสอบ ทำการเก็บวัตถุพยาน ณ จุดเกิดเหตุเพื่อนำไปสู่การพิสูจน์หลักฐานและดำเนินคดีต่อผู้ก่อเหตุต่อไป

          จากนั้น พลตรีปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า /รองแม่ทัพน้อยที่4 เดินทางตรวจสอบเหตุระเบิดรถขนขยะ องค์การบริหารส่วนตำบลลางา บริเวณป้อมจุดตรวจหน่วยบริการประชาชนจันทรักษ์  ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส ม.1 บ้านปาลัส ตำบลควน อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี แรงระเบิดทำให้อาคารส่วนราชการ รถยนต์ รวมไปถึงกำแพงของปั๊ม ปตท. ตู้เอทีเอ็มในปั๊ม และตัวอาคารถูกสะเก็ดระเบิด และแรงระเบิดได้รับความเสียหายเป็นวงกว้าง นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ภายในอาคารได้รับบาดเจ็บ 1 นาย ทราบชื่อ สิบตำรวจโท ณัฐกิตต์ เชี่ยวชาญ ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าลำตัวหลายแห่ง และสิบตำรวจเอก ธีรยุทธ  พลสังข์ ได้รับบาดเจ็บบริเวณนิ้วมือ ถูกนำส่ง โรงพยาบาลปัตตานี  ด้านพนักงานเก็บขยะ 4 คน เจ้าหน้าที่พบตัวอยู่ที่บริเวณจุดทิ้งขยะ ถูกคนร้ายมัดมือไว้ ซึ่งไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

          พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า /รองแม่ทัพน้อยที่ 4 กล่าวว่า ภายหลังจากเดือนรอมฎอนภาพข่าวความเคลื่อนไหวที่ปรากฏในช่วงที่ผ่านมากลุ่มคนร้ายพยายามสร้างสถานการณ์ซึ่งล่าสุดได้เกิดเหตุการณ์พร้อมกันทั้ง 2 จุดในพื้นที่อำเภอรามัน จังหวัดยะลา และพื้นที่อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี คนร้ายได้มีการลอบวางระเบิดในรถขนขยะ อบต.ลางา และลอบปาระเบิดใส่ชุดคุ้มครองตำบลโกตาบารู ซึ่งจากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุ ทราบว่าวัตถุพยานที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุเป็นระเบิดแสวงเครื่องบรรจุในท่อเหล็ก หรือไปป์บอมบ์ ลักษณะของระเบิดคล้ายๆลักษณะเดียวกันที่คนร้ายได้มีการลอบวางระเบิดในพื้นที่ตำบลบาโงยซิแน อำเภอยะหา จังหวัดยะลาในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการตรวจสอบกล้องวงจรปิด ด้านพลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการเน้นย้ำเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติงานด้วยความระมัดระวัง โดยเฉพาะเรื่องการเก็บรวบรวมวัตถุพยานที่จะนำไปสู่การขยายผลต่อกลุ่มคนร้าย  สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นอกจากมีหน้าที่ในการควบคุมพื้นที่ให้ปลอดภัย สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือการใช้มาตรการทางกฎหมายในการเข้าดำเนินการต่อกลุ่มผู้ก่อเหตุในครั้งนี้เพื่อนำมาลงโทษตามกฏหมายโดยเร็วที่สุด

          เหตุการณ์ปาไปป์บอมบ์ที่ชุดคุ้มครองตำบลโกตาบารู อำเภอรามัน จังหวัดยะลา เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่ทางกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงพยามดำเนินการต่อชุดคุ้มครองตำบล ซึ่งชุดคุ้มครองตำบลถือว่าเป็นจิตอาสาภาคประชาชนที่เป็นลูกหลานของคนในพื้นที่ที่เข้ามาเพื่อดูแลความปลอดภัยในพื้นที่ มาดูแลความปลอดภัยชุมชนที่เป็นชุมชนของตนเองซึ่งที่ผ่านมากองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าได้มีการเพิ่มประสิทธิภาพให้กับทางชุดคุ้มครองตำบลมาอย่างต่อเนื่อง หากดูในที่เกิดเหตุจะเห็นว่าความพร้อมในลักษณะทางกายภาพของฐานปฏิบัติการ ทำให้สามารถป้องกันความสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้

          สำหรับเหตุระเบิดรถขนขยะ อบต. ลางา ในพื้นที่อำเภอปะนาเระ จังหวัดปัตตานี เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้ห่างหายไปนานในพื้นที่ และเหตุการณ์นี้คนร้ายได้มีการเข้าไปปล้นรถขนขยะขององค์การบริหารส่วนตำบลลางา อำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี ซึ่งทางพนักงานขนขยะกำลังนำขยะไปทิ้งยังจุดทิ้งขยะ คนร้ายได้เข้าไปปล้น และจับตัวพนักงานขนขยะ และมัดไว้ที่กองขยะ จากนั้นได้นำรถขนขยะคันดังกล่าวไปประกอบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง และนำไปจอดที่บริเวณจุดตรวจทางยุทธศาสตร์ของสถานีตำรวจภูธรปะนาเระ จนเกิดเหตุระเบิดขึ้น  ซึ่งจากการตรวจสอบในเบื้องต้นทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ในสถานที่ราชการและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้แม่ทัพภาคที่ 4 ได้กำชับไปยังหน่วยเฉพาะกิจปัตตานีรวมทั้งภูธรจังหวัดปัตตานีได้รวบรวมวัตถุพยานเพื่อที่จะขยายผลเช่นเดียวกัน และอีกหนึ่งประการสำคัญคือการสำรวจความเสียหายทั้งในส่วนของทางราชการและในส่วนของพี่น้องประชาชนเพื่อจะนำไปสู่การช่วยเหลือเยียวยาตามระเบียบที่กำหนดไว้ต่อไป

          ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่มีผลต่อการพูดคุยเพื่อสันติสุข เพราะในเรื่องของการพูดคุยเป็นความต้องการของสังคมโดยส่วนใหญ่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งพี่น้องประชาชนมีความต้องการและมีความคาดหวังให้กระบวนการพูดคุยประสบความสำเร็จเพราะ จะเกิดผลดีต่อทุกฝ่ายซึ่งที่ผ่านมาเรื่องของการพูดคุยได้มีความก้าวหน้าโดยลำดับอย่างไรก็ตามในเรื่องของบทบาทหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยังยืนยันในหลักการการใช้แนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาและสนับสนุนการพูดคุยเพื่อสันติสุขในบทบาทของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคสี่ส่วนหน้าแต่ในเรื่องของมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายเรายังคงดำเนินการอย่างเข้มงวดเข้มข้นเหมือนเดิมตราบใดที่ยังมีผู้ที่กระทำผิดกฏหมาย ฉะนั้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยืนยันไม่มีผลกระทบต่อกระบวนการพูดคุย และเรื่องของการพูดคุยยังคงเดินหน้าเพื่อหาข้อสรุปในข้อเสนอทั้งสามข้อไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการลดความรุนแรงการปรึกษาหารือกับประชาชนและการหาทางออกทางการเมืองที่เหมาะสมซึ่งขณะนี้ทางคณะทำงานของทั้งสองฝ่ายอยู่ในระหว่างการดำเนินการ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า