แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ชายแดนไทย – เมียนมา พบยาบ้ากว่าล้านเม็ด และยาเสพติดชนิดอื่นอีกหลายรายการ ภายใต้ความร่วมมือจากส่วนต่าง ๆ ขานรับนโยบายแก้ไขปัญหายาเสพติดในพื้นที่ได้อย่างจริงจัง และต่อเนื่อง

448

          วันนี้ 17 พฤศจิกายน 2564 ที่ กองบังคับการหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 ค่ายรัตนรังสรรค์ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง พลตรีศานติ ศกุนตนาค รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย โชตินรินทร์ เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัดระนอง พลตำรวจตรีศรัญญู ชำนาญราช ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง พันเอกภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 25 ผู้แทนสำนักงาน ปปส.ภาค 8 และส่วนที่เกี่ยวข้อง แถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนด้านไทย – เมียนมา ตามสั่งการและนโยบายเร่งด่วนของแม่ทัพภาคที่ 4 ในเรื่องการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ด้วยการประสานความร่วมมือกับส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และงานด้านการข่าวที่เข้มแข็งในพื้นที่ ตลอดจนเครือข่ายภาคประชาชน จนสามารถขยายผลติดตามจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ พร้อมของกลางยาบ้ากว่าหนึ่งล้านเม็ด และยาเสพติดชนิดอื่น ๆ อีกหลายรายการ

          พลตรีศานติ ศกุนตนาค รองแม่ทัพภาคที่ 4/รองผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า” ตามที่พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดเรื่องการบูรณาการด้านการข่าวกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ และเครือข่ายภาคประชาชน จนสามารถติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ และจับกุมการลักลอบค้ายาเสพติดได้เป็นจำนวนมากในครั้งนี้ การปฏิบัติดังกล่าวถือเป็นผลสัมฤทธิ์ของการปฏิบัติงานที่บูรณาการร่วมกันของทุกภาคส่วนในการสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิดโดยเฉพาะยาเสพติด ตามนโยบายการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล ซึ่งหากมีการแพร่ระบาดในวงกว้างจะก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศชาติหลายด้าน ทั้งนี้ นโยบายสำคัญในการดำเนินการ ยังคงมุ่งเน้นใช้มาตรการทางกฎหมายสำหรับผู้ค้าและผู้เสพดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้ค้ารายใหญ่ และรายย่อยให้ลดลงหรือหมดสิ้นไป จนนำไปสู่การยึดทรัพย์ควบคู่กับการส่งเสริมการบำบัดรักษาโดยการมีส่วนร่วมของชุมชน ตลอดจนการพัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมอาชีพอย่างต่อเนื่อง และต้องขอขอบคุณในความเสียสละทุ่มเทของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนที่มีการแจ้งเบาะแสให้กับทางราชการอย่างต่อเนื่องตามช่องทางร้องทุกข์ ร้องเรียนเรื่องต่างๆ รวมทั้งแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับยาเสพติดและความมั่นคง โดยผู้ที่ให้ข้อมูลไม่ต้องแจ้งชื่อแต่อย่างใด สายตรงผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 หมายเลข 08-2294-9522  หรือสายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 06-1173-2999 สามารถติดต่อแจ้งเบาะแสต่างๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง”

          ด้าน พันเอกภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 25 กล่าวว่า “ข้อมูลด้านการข่าวแจ้งว่าจะมีการขนย้ายยาเสพติดผ่านมาทางพื้นที่จังหวัดระนอง เพื่อส่งต่อไปยังพื้นที่ตอนใต้ จึงได้เพิ่มความเข้มงวดจุดตรวจ/จุดสกัดในการตรวจบุคคล และยานพาหนะที่ผ่านเข้า – ออก จนเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 เวลา 22.00 น. ได้ดำเนินการตรวจรถเก๋งมาสด้า สีขาว ทะเบียน ขข 8153 สุราษฎร์ธานี (มุ่งหน้าจังหวัดระนอง) คนขับชื่อ นาย นครินทร์ ขอค้า อายุ 45 ปี  ซึ่งในขณะนั้นได้ขับรถหลบหนีจากจุดตรวจ มุ่งหน้า จังหวัดระนอง จึงได้เเจ้งให้เจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ/จุดสกัด สกัดรถคันดังกล่าว และจัดกำลังไล่ติดตามรวมทั้งแจ้งให้ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ทราบ  และในเวลา 22.40 น. ได้รับแจ้งจากผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านว่าพบรถเป้าหมาย บริเวณซอยโรงเรียนบ้านหินวัว อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง จนสามารถควบคุมตัว นาย นครินทร์ฯ พร้อมรถคันดังกล่าวไว้ได้ เเละดำเนินการตรวจสอบบริเวณดังกล่าว พบยาบ้า จำนวน 5 กระสอบ กระสอบละ 200,000 เม็ด รวมยาบ้าประมาณ 1 ล้านเม็ด วางซุกซ่อนไว้ในป่ากล้วยซึ่งห่างจากตัวรถประมาณ 5 เมตร โดย นาย นครินทร์ฯ ยอมรับ สารภาพว่า ตนได้นำลงจากรถ เเล้วไปซุกซ่อนไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจค้นภายในรถพบยาบ้าอีกจำนวนหนึ่ง ซุกซ่นไว้ในรถและกระเป๋าสะพาย นอกจากนี้ยังได้พบยาไอซ์ชนิดเกล็ดใส จำนวน 2 ถุง น้ำหนัก 3.7 กรัม และกัญชา 2.4 กรัม รวมยาบ้าทั้งหมดประมาณ 1,006,022 เม็ด จากนั้นจึงได้คุมตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง มาดำเนินการสอบสวนและขยายผลต่อไป ซึ่งจากผลการจับกุมดังกล่าว ถือเป็นการขับเคลื่อนนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง และผลสัมฤทธิ์จากการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนในการป้องกัน และปราบปรามยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามขอความร่วมมือพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสก็สามารถแจ้งเข้ามายังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ตลอด เพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากประเทศ คลายทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนเกิดความสงบสุขในพื้นที่ต่อไป”

ศูนย์ประชาสัมพันธ์  กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า