แม่ทัพภาคที่ 4 ติดตามความคืบหน้ากรณีอาวุธปืนสูญหาย เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้ความพยายามติดตามขยายผลสู่การดำเนินคดี สร้างความเชื่อมั่นกลับคืนสู่พี่น้องประชาชน

398

        วันนี้ (3 พฤษภาคม 2564) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมด้วย นายเจษฎา  จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน คณะกรรมการ อนุกรรมการสอบสวนสาเหตุกรณีอาวุธปืนยาวเล็ก ขนาด 5.56 มม. รุ่น AK-102 จำนวน 28 กระบอก สูญหาย จากกองร้อยอาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอเมืองนราธิวาส ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2564 ได้ร่วมติดตามผลการแถลงชี้แจงผลการสอบสวน กรณีดังกล่าว โดยได้มีการ แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนสาเหตุของการสูญหาย ซึ่งมีรองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาสเป็นประธานกรรมการ  ปลัดจังหวัดนราธิวาสเป็นกรรมการ และเลขานุการ รวมทั้งคณะกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างตรงไปตรงมา และมีประสิทธิภาพ

        ภายหลังการสอบสวนสรุปได้ว่า กรณีอาวุธปืนของกองร้อย อส. อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส สูญหายจำนวน 28 กระบอก นั้น แท้จริงแล้วมี การสูญหายเพียง 26 กระบอก อีก 2 กระบอกมิได้เกิดการสูญหายตั้งแต่ต้น แต่เป็นเพียงการผิดหลงทางด้านธุรการ และได้ตรวจสอบที่มาที่ไปพบหลักฐานแล้วจำนวน 6 กระบอก โดยทั้ง 6 กระบอกนี้เป็นอาวุธปืนที่ได้มาจากการตรวจยึดหรือจับกุมบุคคลที่ครอบครองโดยผิดกฎหมาย คงยังมีอาวุธปืนที่สูญหายและอยู่ระหว่างเร่งดำเนินการให้ได้มาอีกจำนวน 20 กระบอก ซึ่งทางจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งคณะกรรมการอยู่ระหว่างการสอบสวนสืบสวน ตรวจสอบ รวบรวมข้อเท็จจริงของการสูญหาย เพื่อให้เกิดความรอบคอบ ชัดเจน ถูกต้อง ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 30 วัน นับตั้งแต่มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ใช้ความพยายามเร่งตรวจสอบอาวุธปืนที่ยังคงสูญหายอีกจำนวน 20 กระบอกให้กลับคืนมาโดยเร็ว เพื่อไม่ให้บุคคลที่มีพฤติกรรมไม่หวังดีนำไปใช้ก่อเหตุรุนแรง สร้างสถานการณ์ในพื้นที่ และเพื่อเป็นการไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นซ้ำ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ออกคำสั่งให้มีเจ้าหน้าที่คลังรับผิดชอบอย่างชัดเจนในการทำหน้าที่บัญชีคุมอาวุธปืนทุกกระบอกในการเบิกจ่าย และนำออกจากคลัง สร้างมาตรการควบคุมอย่างเข้มแข็งของคลังอาวุธ ตลอดจนฐานปฏิบัติการอีกด้วย พร้อมขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน หากพบเบาะแสดังกล่าวก็สามารถแจ้งเจ้าหน้าที่รัฐได้ทันที ที่สายด่วน 1341 หรือหมายเลขโทรศัพท์ 061-1732999 สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

        นอกจากนั้นแล้ว พลโท เกรียงไกร   ศรีรักษ์  แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้เรียกประชุมหารือภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเน้นย้ำนโยบายมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส covid-19 ด้วยการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วน เป็นกำลังหลักในการควบคุมกำกับดูแลพื้นที่เมืองควบคุมพื้นที่รอบนอก ตลอดจนพื้นที่ตอนในจากกำลังภาคประชาชนให้เกิดประสิทธิภาพ เป็นไปตามมาตรการที่ สบค.กำหนด เพื่อไม่ให้มีการแพร่ระบาดขยายในวงกว้าง เกิดผลกระทบกับพี่น้องประชาชนโดยส่วนรวม

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า