ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก พร้อม​ แม่ทัพภาคที่ 4 ลงพื้นที่นราธิวาส​ ติดตามคดีสำคัญ ถอดบทเรียน สร้างประสบการณ์แก้ไขปัญหา

503

        วันนี้ (25 พฤษภาคม 2564)​ พลเอก พรศักดิ์  พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก และคณะผู้บังคับบัญชาของกองทัพบก พร้อมด้วย​ พลโท​ เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ติดตามสถานการณ์เหตุการณ์​ความมั่นคง เน้นย้ำข้อสั่งการ ยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยควบคู่กับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส​ covid-19​ ตามแนวชายแดน โดยได้ลงพื้นที่ไปยังฐานปฏิบัติการ กองร้อยทหารพรานที่ 4811 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส และ หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส ติดตามเหตุการณ์สำคัญ และการบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ หลังพบว่ามีความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาเคลื่อนไหวใช้เป็นที่หลบซ่อนพักพิงเตรียมการก่อเหตุ

        ขณะเดียวกันจากเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส กรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวนลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง ขณะที่ชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ กองร้อยทหารพราน 4804 ลาดตระเวนพิสูจน์ทราบพื้นที่เป้าหมาย บริเวณเขาบูเก๊ะซามาเลีย บ้านดอเฮะ หมู่ที่ 3 ตำบลริโก๋ และชุดที่เข้าสนับสนุนช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บบริเวณฝายกั้นน้ำ บ้านสือแด หมู่ที่ 7 ตำบลสากอ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส  เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ทำให้กำลังพลหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 48 ได้รับบาดเจ็บ​ จำนวน 6 นาย​ พักรักษาตัวยังโรงพยาบาลสุไหงโกลก 4 นาย โรงพยาบาลศูนย์ยะลา 1 นายและโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 1 นาย นั้น พลเอก พรศักดิ์  พูลสวัสดิ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก ได้ถือโอกาสนี้เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่พักรักษาตัวยังโรงพยาบาลสุไหงโกลก เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานในการควบคุมพื้นที่ให้เกิดความปลอดภัยต่อไป

        โดย ผู้​ช่วยบัญชาการทหารบก ได้เน้นย้ำยุทธวิธีการปฏิบัติเชิงรุกแก่เจ้าหน้าที่ ชุดปฏิบัติการจรยุทธที่ต้องลงพื้นที่ ให้ถือว่าทุกคนเป็นแนวหน้าในการรุก เพื่อลาดตระเวนพิสูจน์ทราบ ความเสี่ยงคือพื้นที่ป่าภูเขา ที่ใช้เป็นแหล่งพักพิงของผู้ก่อความไม่สงบ ให้ทุกชุดปฏิบัติการเพิ่มมาตรการความปลอดภัยของชุด ไม่ให้เกิดช่องว่างต่อการซุ่มโจมตี ที่สร้างความสูญเสีย บาดเจ็บ แก่กำลังพล โดยเหตุการณ์ทั้งหมดเป็นการตอบโต้เจ้าหน้าที่รัฐ จากการปฏิบัติเชิงรุกควบคุมพื้นที่ ฉะนั้นเจ้าหน้าที่ทุกคนจึงต้องตระหนัก รู้ทันถึงกลยุทธ ยุทธวิธี เอาประสบการณ์ บทเรียนต่าง ๆ มาเป็นวิชา สร้างกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจ ด้วยความละเอียดรอบคอบ ปรับเทคนิคเข้ากับสถานการณ์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาความสงบเรียร้อยในพื้นที่ต่อไป”

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า​