Home Blog หน้า 752
          เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 10.00 น. ณ ห้างเซ็นทรัลหาดใหญ่ ชั้น 4 อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พันเอก เอกวริทธิ์ ชอบชูผล ผู้บังคับกองพันมณฑลทหารบกที่ 42 ได้จัดกำลังพลจิตอาสาพระราชทาน ร่วมกับ เหล่ากาชาดจังหวัดสงขลา และโรงพยาบาลหาดใหญ่ เข้าร่วมบริจาคโลหิต เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันเฉลิม พระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2566  โดยการบริจาคโลหิต ในกิจกรรม จิตอาสา เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ  ซึ่งเป็นกิจกรรมภายใต้โครงการ จัดหาโลหิตให้มีปริมาณที่เพียงพอต่อการช่วยเหลือผู้ป่วย สำหรับโลหิตที่ได้รับบริจาคในครั้งนี้ มียอดบริจาคโลหิตจำนวน 3,500 ซีซี พร้อมส่งต่อช่วยเหลือผู้ป่วยฉุกเฉินต่อไป ทหารมีไว้ทำไม กองพันมณฑลทหารบกที่42 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
          เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 15.00 น. พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พบปะพูดคุยกับกลุ่มสมาชิกโครงการเครือข่ายเฝ้าระวังภาคประชาชน “วิทยุเครื่องแดงเพื่อความมั่นคง ศูนย์มณโฑ” ณ ห้องปฐมภาคย์ สโมสรค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เพื่อหารือแนวทางและมอบนโยบายการทำงาน เสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติภารกิจของเครือข่าย พร้อมรับฟังปัญหาข้อขัดข้องเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้เหมาะสมเกิดประโยชน์ต่อกลุ่มสมาชิก และพี่น้องประชาชนโดยส่วนรวม           โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ให้ข้อคิดและหลักการทำงานต่อสมาชิกเครือข่าย ว่า “อำเภอหาดใหญ่ถือเป็นศูนย์กลางการค้า เศรษฐกิจ และแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ เราต้องตื่นตัวต่อทุกสถานการณ์อยู่เสมอ สอดส่องดูแลเหตุน่าสงสัย เป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังเหตุในพื้นที่ เพื่อทำลายความพยายามในการก่อเหตุของผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจจะสร้างผลกระทบต่อความสงบสุขของพี่น้องประชาชน ช่วยกันเฝ้าระวังทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อสร้างความอบอุ่นปลอดภัยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุมพื้นที่ แหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ ซึ่งหาดใหญ่ที่ถือเป็นหัวใจหลักทางเศรษฐกิจของภาคใต้ สมาชิกทุกคนต้องสามารถตรวจสอบสิ่งผิดปกติ และรายงานเหตุการณ์ได้อย่างทั่วถึง ทันเวลา ถือเป็นการสร้างความร่วมมือสร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้นในท้องที่ ตามนโยบายการสร้างความมั่นคง และการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนโดยไม่หวังผลตอบแทนให้เห็นผลเป็นรูปธรรม และมีความยั่งยืนอย่างแท้จริง โดยข้อคิดที่สมาชิกของกลุ่มเครือข่ายวิทยุเครื่องแดง ต้องจำและปฏิบัติมีเพียงประโยคสั้นๆว่า นั่งติดที่ เป็นเวลา...
          เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.00 น. ที่ บริเวณรอบบึงเก็บน้ำบ้านลีเซ็ง ตำบลจะกว๊ะ อำเภอรามัน จังหวัดยะลา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 41 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการเสริมสร้างความเข้าใจ ร่วมกิจกรรม “ปลูกต้นไม้ สร้างความตระหนักรู้ในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ทรัพยากรดิน” เนื่องในโอกาสครบรอบ 1 ปี การประกาศเจตนารมณ์ขับเคลื่อนประเทศไทยที่ยั่งยืน ภายใต้โครงการ "อาหารดี ดินดี สุขภาพดี ชีวีมีสุข" ภายใต้แนวคิด "อาหารก่อกำเนิดเกิดจากดิน" (Soil, Where food begins) โดยได้ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ  และประชาชนจิตอาสาในพื้นที่ตำบลจะกว๊ะ จัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น           โดยกระทรวงมหาดไทยได้กำหนดให้เดือนมิถุนายน ถึง เดือนกรกฎาคม 2566 เป็นเดือนแห่งการสร้างความตระหนักรู้ (Awareness Month) เพื่อแสดงออกถึงเจตนารมณ์ในการฟื้นฟูและอนุรักษ์ พยากรดินที่เป็นรูปธรรม ให้เกิดการขยายผลการสร้างความยั่งยืนเชิงประจักษ์ อันเป็นการสร้างรากฐานด้านความมั่นคงทางด้านอาหารอย่างยั่งยืนในทุกพื้นที่ ทหารมีไว้ทำไม ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่41 ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
          เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 ที่ กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 152 ตำบลถ้ำทะลุ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา พลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดการตรวจสภาพความพร้อมรบ และเพิ่มพูนทักษะ การฝึกเดินทางไกลบนภูมิประเทศป่าภูเขา บริเวณพื้นที่รอบค่าย ของกองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 152 และหน่วยขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 15 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการปฏิบัติงานทุกภารกิจของกองทัพบก และความพร้อมของเครื่องมือยุทโธปกรณ์ทางทหาร ตลอดจนเป็นการเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย และจิตใจให้สมบูรณ์ แข็งแรง พร้อมในการปฏิบัติภารกิจต่าง ๆ ได้ในทุกเมื่อ รวมถึงเพื่อทดสอบขีดความสามารถ และความแข็งแรงของร่างกายและจิตใจ ถือเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ ก่อเกิดความสามัคคีให้แก่กำลังพล           โดยการฝึกเดินทางไกล เป็นการฝึกความอดทนของทหารเป็นบุคคล และเป็นหน่วยเป็นส่วนรวม เพื่อให้ผู้บังคับบัญชา สามารถประเมินค่าขีดความสามารถของกำลังพลภายในหน่วย สนองตอบภารกิจในการใช้หน่วยทางยุทธวิธีได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกสภาพภูมิประเทศ ภูมิอากาศ ไม่ว่า จะเป็น บนพื้นที่ราบ หรือ พื้นที่ป่าภูเขา และเมื่อสถานการณ์บีบบังคับให้ต้องเคลื่อนย้ายด้วยเท้า พร้อมเป็นการฝึกให้กำลังพลมีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติภารกิจต่างๆ โดยมีระยะทางไป-กลับ 10...