พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเพลิงศพเบญจมาภรณ์มงกุฎไทย แก่ ร้อยเอก ชินดนัย แร่ทอง ยังความปลาบปลื้มที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นในวาระสุดท้ายของชีวิต

302

          วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 เวลา 15.00 น. ณ วัดนิคมประทีป ตำบลโคกหล่อ อำเภอเมือง จังหวัดตรัง พลเอก เกรียงไกร  ศรีรักษ์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารบก เดินทางเป็นประธานในพิธีพระราชทานเพลิงศพ ร้อยเอก ชินดนัย แร่ทอง นายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึก กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 ซึ่งเสียชีวิตจากเหตุคนร้ายลอบวางระเบิด ชุดปฏิบัติการหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ขณะเดินทางเข้าสนับสนุน/ตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุลอบวางระเบิดและซุ่มยิงราษฎรหาของป่า ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา โดยมี พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, คณะผู้บังคับบัญชา หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ  ตลอดจนประชาชน ร่วมพิธี ไว้อาลัยเป็นจำนวนมาก สร้างความปลาบปลื้มและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อทหารกล้าและครอบครัว ญาติผู้เสียชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้

          โดยพิธีพระราชทานเพลิงศพครั้งนี้จัดขึ้นอย่างสมเกียรติ เพื่อไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้ายให้กับ ร้อยเอก ชินดนัย  แร่ทอง และเมื่อขบวนอัญเชิญไฟพระราชทานมาถึงบริเวณประกอบพระราชพิธี ผู้บังคับบัญชา หน่วยในพื้นที่ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ  ตลอดจนพี่น้องประชาชนในพื้นที่ตั้งแถวรอรับไฟพระราชทาน เจ้าหน้าที่อัญเชิญไฟพระราชทานขึ้นวางประจำจุดเตรียมประกอบพิธี จากนั้นประธานในพิธีขึ้นทอดผ้าบังสุกุล ทหารเป่าแตรนอน บรรดาข้าราชการ ประชาชน ที่มาร่วมพิธีได้ขึ้นวางดอกไม้จันทน์ ร่วมไว้อาลัยเป็นครั้งสุดท้าย แก่ทหารกล้าผู้เสียสละ ซึ่งนับตั้งแต่วินาทีที่ทราบถึงความสูญเสียของ ร้อยเอก ชินดนัย  แร่ทอง กองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้หน่วยดูแลความสะดวกของญาติและครอบครัว ตลอดจนเรื่องสิทธิและสวัสดิการต่างๆที่ร้อยเอก ชินดนัย  แร่ทอง จะได้รับประโยชน์ขึ้นมาอย่างเร็วที่สุด

          ร้อยเอก ชินดนัย  แร่ทอง เกิดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2535 ณ ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เป็นบุตรของ นายโสภณ  แร่ทอง และนางมาลิน  แร่ทอง สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 52, สำเร็จการศึกษาหลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต จากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 63, หลักสูตรส่งทางอากาศ รุ่นที่ 277/2556, หลักสูตรการรบแบบจู่โจมรุ่น 113/2557, หลักสูตรชั้นในร้อยเหล่าทหารราบ รุ่นที่ 144/2562 และหลักสูตรชั้นนายพันเหล่าทหารราบ รุ่นที่ 115/2564 เมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรแล้ว ได้เข้ารับราชการในเหล่าทหารราบในตำแหน่ง ผู้บังคับหมวดปืนเล็กกองร้อยอาวุธเบา กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153 ค่ายอิงคยุทธบริหาร จังหวัดปัตตานี, รองผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบากองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153, ผู้บังคับกองร้อยอาวุธเบากองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153, นายทหารยุทธการและการฝึกกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 153, ช่วยราชการในตำแหน่ง ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายยุทธการและการฝึก หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ตามลำดับ

ซึ่ง ร้อยเอก ชินดนัย แร่ทอง ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ชั้น “เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย”

          ตลอดระยะเวลาที่ร้อยเอก ชินดนัย  แร่ทอง ได้ทุ่มเทเสียสละทั้งแรงกาย และแรงใจในการปฏิบัติราชการ ด้วยความวิริยะอุตสาหะและด้วยความรักต่ออาชีพทหาร ซึ่งเป็นอาชีพที่สร้างความภาคภูมิใจในฐานะผู้เสียสละ อาชีพที่ยอมลำบากเพื่อให้พี่น้องประชาชนผู้อยู่แนวหลังได้ใช้ชีวิตอย่างปกติสุข ยอมปรีได้แม้กระทั่งชีวิตของตนเอง อาชีพที่สร้างคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติเป็นอเนกอนันต์ อาชีพของผู้ที่ปิดทองหลังพระ ส่งผลให้ภารกิจป้องกันอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศชาติบ้านเมืองสำเร็จลุล่วง เพื่อชาติ ศาสนา สถาบันพระมหากษัตริย์ และประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริง และถือเป็นการทำหน้าที่ของชายชาติทหารอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ยังได้ปฏิบัติหน้าที่เป็นบุตรที่ดีของคุณพ่อ คุณแม่ และเป็นน้องชายที่น่ารักของเหล่าบรรดาพี่น้องด้วยดีมาตลอด การจากไปของร้อยเอก ชินดนัย แร่ทอง สร้างความโศกเศร้าและความเสียใจ ทั้งแก่คุณพ่อ คุณแม่ พี่น้อง และญาติมิตรเป็นอย่างยิ่ง และไม่ใช่เป็นเพียงการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่เรารักในครอบครัว “แร่ทอง” และครอบครัว “อึ่งทอง” เท่านั้น แต่ยังนับว่าเป็นการสูญเสียวีรชนทหารกล้า ผู้ที่ยอมอุทิศแม้กระทั่งชีวิตของตน เพื่อความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่และประชาชนชาวไทยทั้งประเทศจนวาระสุดท้ายแห่งชีวิต แม้เวลาจะผ่านเนิ่นนานเท่าใดภาพแห่งความทรงจำในวันวานยังคงแจ่มชัดในความรู้สึกของครอบครัว ภาพที่ยังมีรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของร้อยเอก ชินดนัย แร่ทอง จะยังคงงดงาม ตราตรึงและซาบซึ้งอยู่ในความรู้สึกของทุกคนที่ได้สัมผัสชีวิตตราบนานเท่านาน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า