ความคืบหน้ากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ บ.ควนตีหมุน ต.ปากบาง อ.เทพา จ.สงขลา

291

          เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2565 เวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้าไปหลบซ่อนในบ้านเลขที่ 55 หมู่ที่ 7 บ้านควนตีหมุน ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา จึงได้จัดกำลังเข้าติดตามบังคับใช้กฎหมายในพื้นที่ โดยได้ประสานขอกำลังสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ทหารเข้าไปสนับสนุนในฐานะเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงาน โดยขั้นตอนการปฏิบัติ ได้ดำเนินการตามมาตรการจากเบาไปหาหนัก ด้วยการเชิญผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนา และเครือญาติเข้าร่วมเจรจาเกลี้ยกล่อมให้คนร้ายที่หลบซ่อนอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าวยอมออกมามอบตัว แต่คนร้ายกลับไม่ยินยอม กลับใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่เพื่อเปิดทางหลบหนี จึงได้เกิดการยิงต่อสู้กันขึ้นเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ประกอบด้วย

  1. ส.ต.อ. นำโชค สุวรรณ ถูกกระสุนปืนได้รับบาดเจ็บที่ต้นขาขวา นำส่งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร และส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์
  2. จ.ส.ต. อัมรินทร์ หนูโงน ถูกกระสุนปืนถากบริเวณศรีษะด้านขวา นำส่งโรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร และส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลยะลาสิริรัตนรักษ์ ภายในศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ขณะนี้อยู่ในอาการปลอดภัย

         ส่วนที่ศพผู้เสียชีวิตพบอาวุธปืนพกสั้นยี่ห้อซีแซด ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอกในมือด้านขวา ทราบชื่อต่อมาคือ นายอับดุล  สอเหร็ม อายุ 32 ปี มีหมายจับในคดีความมั่นคง 14 หมาย เคยก่อเหตุสร้างความเดือดร้อนและความสูญเสียทำให้มีได้รับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก โดยมีคดีที่สำคัญ เช่น คดีปล้นรถจากเต็นท์รถวังโต้คาร์เซ็นเตอร์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย เสียชีวิต 1 ราย, คดีลอบวางระเบิดรถจักรยานยนต์เจ้าหน้าที่ อส. ได้รับบาดเจ็บ 8 ราย, คดีลอบวางระเบิดนายสุทธิศักดิ์  หมีนเส็น ได้รับบาดเจ็บสาหัส และคดีลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ชุดปฎิบัติการจรยุทธ์ ร้อย ร.2531 ทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย

          ภายหลังการปฏิบัติ พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กล่าวแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิตพร้อมเน้นย้ำว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้มีความต้องการที่จะหมายเอาชีวิตคนร้ายแต่อย่างใด แต่เหตุที่เกิดขึ้นเนื่องจากคนร้ายไม่ยอมออกมามอบตัว กลับยิงต่อสู้จนทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บถึง 2 นาย สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ได้รับบาดเจ็บ จะเร่งดำเนินการให้หน่วยต้นสังกัดดำเนินการดูแลด้านสวัสดิการอย่างรวดเร็วที่สุด ส่วนผู้ให้ที่พักพิงแก่คนร้ายจะต้องเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป

          ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ต้องขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่เจ้าหน้าที่ จนนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายในครั้งนี้ ซึ่งหากพี่น้องประชาชนพบเห็นการกระทำผิดกฎหมายหรือพบเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง สามารถแจ้งได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า