รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุคนร้ายขว้างปาระเบิดและระดมยิงใส่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ระบุยังไม่ทราบปัจจัยการก่อเหตุ กำชับเพิ่มความเข้มข้นตรวจตราช่องทางเข้าออกพื้นที่

192

          วันนี้ 26 พ.ค. 65 เวลา 13.00 น. ที่ห้องประชุมด่านศุลกากรตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พลตรี ปราโมทย์  พรหมอินทร์ รอง ผอ.รมน.ภาค 4 สน. ลงพื้นที่ เพื่อร่วมประชุมรับทราบสถานการณ์ และหารือถึงปัจจัยและสาเหตุของการก่อเหตุร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุกรณีคนร้ายจำนวน 20 คน ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหะนะ แบ่งเป็นสองชุด ชุดแรกขว้างระเบิดไปร์ทบอมใส่สถานีตำรวจน้ำตากใบ จากนั้นระดมยิงใส่เจ้าหน้าที่ ในขณะเดียวกัน ชป.พิทักษ์พื้นที่ เตรียมนำกำลังเข้าช่วยเหลือสนับสนุน แต่ถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุชุดที่สอง ขว้างปาระเบิดและยิงสกัดกั้น เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บ 3 นาย ขณะนี้กำลังเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ อาการเบื้องต้นปลอดภัยดี นอกจากนี้ยังมีการก่อเหตุวางระเบิดอีก 3 จุด ได้แก่ จุดวางระเบิดเสาไฟฟ้า 7 ต้น จุดวางระเบิดและโรยตะปูเรือใบ และจุดวางระเบิดข้างถนนบริเวณบ้านศรีพงัน ซึ่งบริเวณที่เกิดเหตุระเบิดอยู่ห่างจากร้านสะดวกซื้อ 500 เมตร สร้างความหวาดระแวงให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

           ส่วนปัจจัยในการก่อเหตุ ในที่ประชุมระบุว่า เบื้องต้นยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้น เป็นการสร้างสถานการณ์ความไม่สงบจากกลุ่มผู้เห็นต่างที่ไม่เห็นด้วยกับข้อตกลงยุติความรุนแรง และไม่ได้เข้าร่วมพูดคุยกับคณะพูดคุยเพื่อสันติสุข หรือเกิดจากการตอบโต้จากกลุ่มภัยแทรกซ้อนที่เสียผลประโยชน์จากการบังคับใช้กฏหมายของเจ้าหน้าที่อย่างเข้มข้นในห้วงที่ผ่านมา ทั้งการเข้าไปตรวจค้นคลังสินค้าหนีภาษี การกวาดล้างยาเสพติด การกวาดล้างจับกุมขบวนการค้ามนุษย์ อย่างไรก็ตามสิ่งที่จะนำไปสู่บทสรุปของการก่อเหตุในครั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และหลักฐานจากกล้องวงจรปิด CCTV ทั้งหมด เพื่อติดตามเส้นทางจนนำไปสู่การระบุตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ในที่สุด

          ทั้งนี้ พลตรี ปราโมทย์ พรหมอินทร์ฯ ได้สั่งการและมอบนโยบายให้กับกำลังพลได้เน้นย้ำให้กำลังพลเพิ่มความละเอียดและเพิ่มความเข้มข้นตรวจตราช่องทางผ่านเข้า-ออก ไม่ว่าจะเป็นการลักลอบการกระทำผิดกฏหมายขนย้ายสินค้าหนีภาษีและแรงงานต่างด้าว ที่สำคัญคือช่องทางเข้าออกที่กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในการลักลอบขนย้ายอาวุธและวัตถุระเบิด นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้ทุกฝ่ายร่วมกันบูรณาการฐานข้อมูลกระจายข่าว ตรวจสอบข้อมูลจากแหล่งข่าวเชิงลึกเพื่อนำข้อมูลที่สำคัญมาประกอบการประชุมในแต่ละครั้ง ซึ่งหลังจากนี้สิ่งที่ต้องระมัดระวังนั่นคือการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารที่อาจจะทำให้เกิดความสบสนในการปฏิบัติงาน พร้อมกันนี้ยังได้ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้วยความไม่ประมาทและพร้อมให้การสนับสนุนหน่วยงานท้องถิ่นอย่างเต็มกำลังความสามารถต่อไป

ศูนย์ประชาสัมพันธ์#กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า