เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2565 เวลา 06.00 น. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้รับแจ้งจากประชาชนว่ามีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงเข้ามาหลบซ่อนในพื้นที่เพื่อเตรียมก่อเหตุ จึงได้สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เข้าดำเนินการตรวจสอบ บ้านเลขที่ 41/1 บ้านเขาดิน หมู่ที่ 2 ตำบลละหาร อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี ในขั้นต้นพบว่ามีคนร้ายหลบซ่อนในบ้านหลังดังกล่าว จำนวน 2 คน จึงได้ทำการปิดล้อมและเกลี้ยกล่อมให้ออกมามอบตัว โดยเชิญหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วมเจรา นานกว่า 4 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล คนร้ายกลับวิ่งฝ่าออกมาจากบ้าน และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้ จากการปฏิบัติทำให้เจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 นาย คือ ร้อยเอก สุริยะ บินญาวัง ถูกกระสุนปืนยิงทะลุสะโพกด้านซ้าย นำส่งโรงพยาบาลสายบุรี ส่งต่อโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ปัจจุบันอาการปลอดภัย ส่วนคนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 2 ราย มีหมายจับรวมกัน 14 หมาย ประกอบด้วย
- นายรอซาลี เจะเลาะ อายุ 40 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 11 หมาย
- นายมารวาน มีทอ อายุ 27 ปี มีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 3 หมาย
นอกจากนี้ยังตรวจยึดอาวุธปืน AK 47 และ AK 102 ของคนร้าย รวม 2 กระบอก ซึ่งจะได้นำไปตรวจพิสูจน์หาที่มาและประวัติการก่อเหตุต่อไป

จากประวัติและพฤติกรรมของคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง2รายพบว่าเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการและระดับปฏิบัติการ เคยก่อเหตุความรุนแรงมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2549 – ปัจจุบัน ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าและเผา 3 พ่อลูกตระกูลกิตติประภานันท์เสียชีวิต 3 ราย เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2564 ที่ผ่านมา โดยในการปฏิบัติ พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้กำชับให้หน่วยใช้การเจรจาเป็นหลัก และทุกขั้นตอนต้องปฏิบัติตามหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด แต่กลุ่มคนร้ายกลับต่อสู้ เป็นผลให้ต้องยิงตอบโต้จนคนร้ายเสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอขอบคุณมายังพี่น้องประชาชนที่ช่วยแจ้งเบาะแสผู้ก่อเหตุรุนแรง ทางหมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 ที่หมายเลข 061-1732999 และนอกจากนี้ยังขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิด ทั้งการให้ที่พักพิง เก็บซ่อนอาวุธ หรือ จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า













Users Today : 418
Users Yesterday : 570
Users Last 7 days : 5141
Users Last 30 days : 15715
Users This Month : 10694
Users This Year : 125708
Views Today : 541
Views Yesterday : 884
Views Last 7 days : 7990
Views Last 30 days : 25735
Views This Year : 247661





