กอ.รมน.ภาค 4 ยืนยันเหตุระเบิดส่งท้ายปี 2564 เชื่อมโยงคนร้ายกลุ่มเดิม พบประวัติการก่อเหตุโชกโชน

345

          จากกรณีคนร้ายได้ลอบวางระเบิดพร้อมกันหลายจุด เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2564 ในเขตพื้นที่ อำเภอเมือง อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เป็นเหตุให้เสาไฟฟ้าได้รับความเสียหาย 10 ต้น ทำให้เกิดไฟฟ้าดับในหลายพื้นที่ โดยไม่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่อย่างใด และภายหลังเกิดเหตุ ได้มีการเสนอข่าวผ่านสื่อมวลชนหลายสำนัก อ้างเป็นความสำเร็จในการก่อเหตุครั้งแรกของนักรบรุ่นใหม่ของขบวนการ BRN สร้างความสับสนให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างกว้างขวาง

          ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2565 พลตรี ปราโมทย์  พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดเหตุ พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยเข้าทำการตรวจสอบและเก็บกู้วัตถุระเบิด พร้อมเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ เพื่อขยายผลบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ โดยผลการตรวจสอบหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จากสารพันธุกรรม (DNA) ที่ปนเปื้อนในวัตถุพยาน พบความเชื่อมโยงกับกลุ่มคนร้ายระดับแกนนำและระดับปฏิบัติการในพื้นที่หลายราย โดยพบประวัติและพฤติกรรมเคยก่อเหตุสร้างสถานการณ์ความรุนแรงที่สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินมาอย่างโชกโชน และมีหมายจับ ป.วิอาญา รวมกันหลายคดี ดังนี้:-

  1. นายนอร์ดิน หะยีอาซา อายุ 38 ปี พบประวัติเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับสั่งการ มีหมายจับ ป.วิอาญา ของศาลจังหวัดยะลา 2 หมาย ประกอบด้วย หมายจับที่ จ.339/2561 ลง 2 สิงหาคม 2561 เหตุยิงราษฎรเสียชีวิต 5 ราย พื้นที่ ตำบลตะเนาะปูเต๊ะ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2561 และหมายจับที่ จ.407/2561 ลง 12 กันยายน 2561 เหตุยิงเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรกรงปินัง เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560 นอกจากนี้ยังพบประวัติและพฤติกรรมเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุรุนแรงตั้งแต่ ปี 2549 – ปัจจุบัน จำนวนหลายคดี

  1. นายอายุ ดอเลาะ อายุ 36 ปี ภูมิลำเนาเลขที่ 38 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าสาป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พบประวัติเป็นผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการ มีหมายจับ ป.วิอาญา ของศาลจังหวัดยะลา 2 หมาย ประกอบด้วย หมายจับที่ จส.317/2552 ลง 20 กันยายน 2552 จากกรณีเหตุใช้อาวุธปืน AK-47 ยิงพระภิกษุ จนมรณภาพ 1 รูป และบาดเจ็บ 1 รูป เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2552 พื้นที่บ้านคลองทราย หมู่ที่ 5 ตำบลยุโป อำเภอเมือง จังหวัดยะลา และหมายจับที่ จส.35/2554 ลง 22 กุมภาพันธ์ 2554 จากกรณีเหตุลอบวางระเบิดในเขตเทศบาลนครยะลาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บหลายราย และทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก

          ปัจจุบันเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออนุมัติออกหมายจับเพิ่มเติมทั้ง 2 ราย และขยายผลเครือข่ายเชื่อมโยงเพื่อติดตามจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          จากประวัติและพฤติกรรมของกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนี้ จะเห็นได้ว่าเป็นคนร้ายกลุ่มเดิมๆ ที่เคยก่อเหตุในรูปแบบต่างๆ และได้สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ตลอดจนได้สร้างความเดือดร้อนให้พี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง และเป็นบุคคลตามหมายจับที่อยู่ระหว่างหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ประกอบกับฐานข้อมูลด้านการข่าว และการติดตามบังคับใช้กฎหมายในห้วงเวลาที่ผ่านมา สามารถควบคุมกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งทุกคนยืนยันได้ว่าเป็นกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่พบประวัติการก่อเหตุและสนับสนุนการก่อเหตุมาแล้วทั้งสิ้น จึงเห็นได้ว่า ไม่เป็นไปตามคำกล่าวอ้างของกลุ่มที่เคลื่อนไหวผ่านเพจเฟซบุ๊ก BRN (Barisan Revolusi National) ว่า “เป็นผลงานที่ประสบความสำเร็จ ภายใต้ศักยภาพของนักรบรุ่นใหม่ของกลุ่มขบวนการ BRN แต่อย่างใด”

          และเมื่อติดตามเพจเฟซบุ๊ก BRN ดังกล่าว พบว่ามีพฤติกรรมเคลื่อนไหวโจมตีด้อยค่ารัฐบาลและหน่วยงานภาครัฐ พร้อมๆ กับพยายามยกระดับความมีตัวตนและศักยภาพของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง รวมทั้งได้ปลุกระดม ปลุกปั่นสร้างสังคมอัตลักษณ์เชิงเดี่ยว สร้างความแตกแยกในหมู่ประชาชนมาโดยตลอด และเป็นเพจที่เจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อหาแนวทางดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยที่ผ่านมายังไม่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดออกมายอมรับว่าอยู่เบื้องหลังเพจดังกล่าว

          จึงเห็นว่าในปัจจุบันได้ว่ากลุ่มเครือข่ายแนวร่วมทั้งในและนอกพื้นที่ ได้ใช้สื่อโซเชียลในการเคลื่อนไหวนำเสนอข้อมูลอันเป็นเท็จ (fake news) เพื่อประโยชน์ของกลุ่มและสร้างความวุ่นวายสับสนให้เกิดขึ้นในสังคมอย่างต่อเนื่อง

          จึงขอให้พี่น้องประชาชนและสื่อมวลชนบริโภคข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ และตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และอาจตกเป็นแนวร่วมมุมกลับให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจส่งผลให้เกิดความยุ่งยากในการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น พร้อมกับขอความร่วมมือช่วยกันตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร หากพบเห็นสิ่งผิดปกติ สามารถสอบถามโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ หรือแจ้งผ่านสายด่วนแม่ทัพภาคที่ 4 หมายเลข 061 – 173 – 2999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า