หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดขบวนรถไฟบรรทุกผลไม้ ในพื้นที่ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เน้นย้ำ!! บูรณาการปฎิบัติงานร่วม 3 ฝ่าย เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเส้นทาง

        เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2564 เวลา 10.30 น. พลตรีไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย พันเอก ทวีรัตน์ เบญจาทิกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45  นายจิรัตย์ ศิริวัลลก

        นายอำเภอระแงะ และส่วนที่เกี่ยวลงพื้นที่ ตรวจสอบ ติดตามความคืบหน้าเหตุลอบวางระเบิดขบวนรถไฟพิเศษ ขนส่งสินค้าขบวนที่ 986 บรรทุกผลไม้ ในพื้นที่ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส

        โดยเหตุเกิดระหว่างสถานีป่าไผ่ – ตันหยงมัส ช่วงสะพานฮูลูปาเระ ก่อนถึงสถานีตันหยงมัส อำเภอระแง จังหวัดนราธิวาส ประมาณ 1 กิโลเมตร รถไฟขบวนดังกล่าวเป็นรถไฟขนส่งพัสดุและผลผลิตทางการเกษตร ขบวนพิเศษที่ 986 เปิดเดินรถจากสถานีต้นทางสุไหงโก-ลก เป็นเที่ยวแรกในเส้นทางสายใต้ เพื่อขนส่งระบายสินค้าทางการเกษตร และพัสดุของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไปขายยังภูมิภาคอื่นของประเทศ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจากมาตรการควบคุม และจำกัดการเดินทางในห้วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ซึ่งผู้ก่อเหตุรุนแรงได้จุดชนวนระเบิดขึ้นขณะขบวนรถไฟมาถึงเส้นทางหลักกิโลเมตรที่ 1104 ระหว่างสถานีป่าไผ่ – ตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส และมีการยิงซ้ำไปยังตู้ที่พนักงานประจำขบวนรถนั่งประจำการ เบื้องต้น ตู้รถไฟชั้น 3 คันที่ 5 ซึ่งบรรทุกผลไม้จากเกษตรกรจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้รับความเสียหาย แต่โชคดีพนักงานบนขบวนรถไฟปลอดภัยทุกคน อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุขึ้น การรถไฟแห่งประเทศไทย จำเป็นต้องหยุดการเดินรถไฟขบวนพิเศษ ที่ตั้งใจเปิดเดินรถเพื่อการขนส่งสินค้าทางการเกษตรให้กับประชาชนในช่วงฤดูกาลผลผลิตล้นตลาด เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้กับเกษตรกรและพ่อค้าประชาชนไปก่อนอย่างไม่มีกำหนด

        ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส  กล่าวว่า จากการลงพื้นที่ ตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยผู้ก่อเหตุรุนแรง ถือโอกาสช่องว่างก่อเหตุ กับขบวนรถไฟพิเศษที่ช่วยพี่น้องเกษตรกร ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นขบวนที่ 2  ในการบรรเทาความเดือนร้อนของพี่น้องเกษตรกร ในช่วงสถานการณ์โควิด 19 โดยเริ่มตั้งแต่ วันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา  ทั้งนี้ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซ่อมบำรุง เพื่อให้พร้อมใช้ให้เร็วที่สุด พร้อมทั้งเน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัยเส้นทาง ปรับแผนการรักษาความปลอดภัยเส้นทาง ให้รัดกุมเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะที่สำคัญ อาสาสมัครประจำพื้นที่ และพี่น้องประชาชน ต้องมาช่วยดูแล เพราะเส้นทางการเดินรถไฟ ค่อยข้างมีระยะยาวนาน ถึง 24 กิโลเมตร  พร้อมทั้งจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ตลอดจนอาสาสมัครประจำพื้นที่ ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ต้องช่วยกันรักษาความปลอดภัย ตลอด 2 ข้างทาง  ตลอดจนเน้นย้ำการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย เพิ่มความเข้มงวดเป็นพิเศษ บูรณาการการปฏิบัติงานร่วมกัน ระหว่างฝ่ายเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง เพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนเส้นทาง และที่สำคัญ ขอความร่วมมือจากผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยเป็นหู เป็นตา สอดส่องดูแล สามารถแจ้งเบาะแส ต่อทางราชการ  ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า