ทหาร ตำรวจ ยันหนักแน่น “เราจะสู้ไปด้วยกัน” เป็นหนึ่งเดียวดูแลประชาชนในทุกกรณี

451

        พลโท คงชีพ  ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึง การหนุนเสริมกำลังทหาร ตำรวจ เข้าไปช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์วิกฤตโควิดที่ยังมีการแพร่ระบาด และพบผู้ป่วยติดเชื้อตามบ้านและชุมชนมากขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้ม ว่า “เรากำลังเร่งช่วยกันคัดแยกผู้ป่วยเชิงรุก โดยทหาร ตำรวจ ได้จัดกำลังเสริมชุด CCRT ของ กรุงเทพมหานคร รวม 138 ชุด เร่งเข้าไปตรวจค้นหาเชิงรุกตามบ้านและชุมชนในกรุงเทพมหานคร 50 เขต เพื่อแยกผู้ป่วยติดเชื้อออกจากชุมชน นำเข้าสู่ระบบการรักษาตามสถานพยาบาลที่กำหนด พร้อมทั้ง ฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและกลุ่ม 8 โรคเสี่ยงที่ยังไม่ได้รับถึงบ้านทันทีในคราวเดียวกัน ซึ่งถือเป็นงานสำคัญเร่งด่วนที่ต้องช่วยกันเร่งหยุดการกระจายของเชื้อร่วมกัน”

        โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวต่อถึง กรณีการเข้าไปช่วยเหลือผู้ป่วยที่ตกค้างตามบ้านและชุมชนว่า  กำลังทหารตำรวจ ได้ร่วมกันจัดตั้ง “ศูนย์เคลื่อนย้ายผู้ป่วย” โดยจัดยานพาหนะกว่า 200 คัน พร้อมเจ้าหน้าที่ หนุนเสริมเข้าไปช่วยทำงานร่วมกับ กรุงเทพมหานคร และ กระทรวงสาธารณสุข ตลอด 24 ชั่วโมง (ติดต่อสายด่วน 191, 1668, 1669, 1330 และ ศูนย์เคลื่อนย้ายฯ 062-4427903, 062-3502357 ) ช่วยเคลื่อนย้ายนำผู้ป่วยเข้ามาสู่ระบบการรักษาแล้ว รวม 14,635 ราย  พร้อมกันนี้กองทัพบกได้จัดตั้ง “ศูนย์ประสานงานต้านภัยโควิด” เพื่อช่วยเหลือประชาชนในทุกกรณี ฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งการรับ – ส่ง ผู้ป่วยและผู้หายป่วย รวมทั้งเคลื่อนย้าย ฌาปนกิจศพผู้ติดเชื้อ  ขณะเดียวกันได้จัดยานพาหนะและอากาศยาน สนับสนุนส่งกลับผู้ป่วยที่สมัครใจไปรับการรักษาในภูมิลำเนาตามความพร้อมของจังหวัดปลายทาง

        และเพื่อให้การแก้ปัญหาในพื้นที่ทันต่อสถานการณ์ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้กองทัพ จัดกำลังลงพื้นที่ ตั้ง “จุดบริการประชาชน” ในชุมชน 13 จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม โดยกำลังทหารได้กระจายลงพื้นที่ชุมชนต่างๆ แล้ว รวม 110 จุด  โดยเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร จำนวน 44 จุด เช่น ชุมชนวัดมะกอก, สามพะยา, วัดลาดบัวขาว, วัดสะพาน, สวนพลู, ตลาดยิ่งเจริญ และตลาดดินแดง เป็นต้น โดยประชาชนในพื้นที่สามารถแจ้งเหตุ เพื่อขอรับการช่วยเหลือได้ในทุกกรณี ซึ่งก็จะช่วยรองรับแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นในพื้นที่ได้รวดเร็วขึ้น

        โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวถึง ความคืบหน้าในการสนับสนุนจัดตั้ง โรงพยาบาลสนามว่า กำลังทหารตำรวจได้สนับสนุน กระทรวงสาธารณสุข จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม ต่อเนื่องมาแล้วกว่า 1 ปี ตั้งแต่ สถานการณ์การแพร่ระบาดเริ่มเกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม 2563  ปัจจุบันมีโรงพยาบาลสนาม ในหน่วยทหารรวม 34 แห่ง ใน 24 จังหวัด รวม 6,135 เตียง ใช้หมุนเวียนดูแลผู้ป่วยต่อเนื่องมา โดยบุคลากรทางการแพทย์ของ กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกำลังพลของกองทัพที่จัดสนับสนุน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้ทหารตำรวจ ใช้สโมสรทหาร ตำรวจ ทั่วประเทศ จัดตั้งเป็นโรงพยาบาลสนามเพิ่มเติม เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคที่ยังรุนแรงอยู่ในหลายพื้นที่ ซึ่งอยู่ระหว่างการสำรวจและปรับปรุงสถานที่ร่วมกับสาธารณสุขในแต่ละจังหวัด สำหรับสโมสรทหารตำรวจในกรุงเทพมหานคร อยู่ระหว่างเร่งจัดเตรียมเป็นโรงพยาบาลสนาม โดย โรงพยาบาลสนามสโมสรกองทัพบก รองรับผู้ป่วยได้ 300 – 400 ราย และ โรงพยาบาลสนาม สโมสรตำรวจ รองรับผู้ป่วยได้ 200 ราย คาดว่าจะเร่งเปิดใช้ได้ภายใน 30 กรกฏาคม 2564

        โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวย้ำว่า สถานการณ์วิกฤตจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ยังรุนแรงขยายตัวเป็นวงกว้างต่อเนื่องยาวนานนี้ เป็นภัยต่อชีวิตและความยากลำบากของทุกครอบครัว ที่เราทุกคนจำเป็นต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน ช่วยเหลือดูแลกันและกัน ไม่เสียดสีโทษกล่าวว่าร้าย ทำลายกำลังใจกันเอง

        ขอยืนยันว่า “เราจะสู้ไปด้วยกัน” โดยตำรวจและทหารจากทุกเหล่าทัพ ยังคงหนักแน่นมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนทำงานร่วมบุคลากรทางการแพทย์และทุกหน่วยงาน ต่อสู้กับโรคร้ายแรงนี้ไปด้วยกันต่อไป อย่างเข้มแข็งและอดทน เพื่อช่วยเหลือดูแลอยู่เคียงข้างทุกคน โดยหากมีปัญหาในทุกกรณี ขอให้ติดต่อทหาร หรือตำรวจในพื้นที่ และช่องทางการสื่อสารได้ตลอด 24 ชั่วโมง

กองทัพบก

เราจะสู้ไปด้วยกัน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า