แถลงจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่กว่าร้อยล้านบาท ลักลอบขนจากภาคเหนือลงใต้

        เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 มีนาคม 2564 ที่กองกำกับการตำรวจภูธร จังหวัดปัตตานี พลตำรวจตรี ดุษฎี  ชูสังกิต รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9, พลตรี คมกฤช  รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และ พลตำรวจตรี พิชญ์วุฒิ  สงวนสมบัติศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ภาคเหนือ โดยจับกุมผู้ต้องหาได้ 3 ราย ทราบชื่อ นายมะสะแปอิง  มะดาโอ๊ะ อายุ 56 ปี นายวิรัตน์  ยามาเจริญ อายุ 62 ปี และ นายสมจิตร  เฉียงเถา อายุ 29 ปี พร้อมของกลาง ยาไอซ์ 510 กิโลกรัม ยาบ้า 60,000 เม็ด นอกจากนี้ได้ทำการยึดทรัพย์หลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์ 4 คัน บัญชีธนาคาร 2 เล่ม โฉนดที่ดิน 5 ฉบับ สร้อยคอทองคำ จำนวน 10 รายการ รวมมูลค่ากว่า 110 ล้านบาท  ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ให้การรับสารภาพ

        สำหรับการจับกุมครั้งนี้ พันตำรวจเอก เอกชัย  วิเชียร ผู้กำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดปัตตานี ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดล๊อตใหญ่มาจากพื้นที่ทางภาคเหนือ เพื่อลงมาจำหน่ายให้เครือข่ายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งสายลับแจ้งว่า จะมีการพักยาในพื้นที่ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยใช้รถกระบะยี่ห้อนิสสัน สีส้ม ทะเบียน บต.6763 ยะลา จึงได้นำกำลังเข้าทำการจับกุมได้ผู้ต้องหา 2 ราย คือ นายมะสะแปอิง  มะดาโอ๊ะ และนายวิรัตน์  ยามาเจริญ จากการสอบสวนขยายทั้งสองได้รับสารภาพว่า ยาเสพติดจะมีการขนย้ายมากับรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน 70-8155 เพชรบุรีจอดอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปตรวจยึด ก่อนทำการตรวจค้นปรากฏว่าพบยาไอซ์บรรจุในห่อชาจีนแล้วใส่ไว้ในกระเป๋าก่อนจะนำกระสอบข้าวสารมาวางทับไว้เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัว นายสมจิตร  เฉียงเถา ซึ่งเป็นคนขับรถมาสอบสวนก่อนจะรับสารภาพว่าได้รับค่าจ้างในการขนยา จำนวน 100,000 บาท จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 รายพร้อมของกลางมาสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป

        พลตรี คมกฤช  รัตนฉายา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กล่าวว่า ที่ผ่านมา พลโท เกรียงไกร  ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำ ความเข้มงวด และจริงจังในการดำเนินงาน ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ในพื้นที่ สำหรับการจับกุมในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งครั้งสำคัญที่สามารถจับกุมยาเสพติดได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นผลสำเร็จจากความร่วมมือของทุกภาคส่วน ทั้งกำลังภาคประชาชน เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร และฝ่ายปกครอง ทั้งนี้ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้ฝากขอบคุณการทำงานจากทุกฝ่ายที่ได้ช่วยเหลือกัน และขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายให้ดำเนินงานอย่างเข้มงวดต่อไปเพื่อให้ยาเสพติดหมดไปจากพื้นที่

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า