พลิกนาร้าง เป็นนารักษ์ สร้างสังคมพหุวัฒนธรรม สร้างสันติสุขในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

983

     วันนี้ (13 กุมภาพันธ์ 2564) เวลา 10.00 น. ที่แปลงนาข้าววัดโพธิธาราม หมู่ที่ 3 บ้านละโพ๊ะ ตำบลป่าไร่ อำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี สถาบันพระปกกล้า โดยจังหวัดปัตตานีในนามของข้าราชการพนักงานศูนย์พัฒนาการเมือง คณะนักเรียนพหุวัฒนธรรม ตำบลป่าไร่ และชาวนาผู้ร่วมโครงการเกษตรอินทรีย์เพื่อความมั่นคงทางอาหารต่อต้านภัย covid-19 และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ได้จัดกิจกรรมเก็บเกี่ยวข้าวผลผลิตโครงการเกษตรนารวมผลิตข้าวอินทรีย์ ขึ้น ด้วยโครงการเสริมสร้างระบบฐานรากเครือข่ายเศรษฐกิจชุมชน และเสริมสร้างความเข้มแข็งของพลเมืองภายใต้สภาพสังคมพหุวัฒนธรรม” ซึ่งเป็นโครงการที่สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 4 ด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และสอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศตามรัฐธรรมนูญ ( สังคม-เศรษฐกิจ) และได้วางยุทธศาสตร์ให้นักเรียนพลมืองพหุวัฒนธรรม ทำกิจกรรมสอดรับกับโครงการดังกล่าว คือ กิจกรรมสาขาเกษตรนารวมผลิตข้าวอินทรีย์ จำนวน 100 ไร่ เพื่อสนับสนุนนโยบายความมั่นคงทางอาหารของรัฐบาล หลังเหตุการณ์โรคระบาดโควิด 19 ยุติ และสร้างสังคมสันติสุขภายใต้หลักการ “สงวนจุดที่ต่างสร้างวัฒนธรรมร่วมพุทธ/มุสลิม ทำนาผลิตข้าว เพื่อสร้างเป็นวัฒนธรรมร่วมเสริมฐานความเข้มแข็งของพลเมืองภายใต้สภาพสังคมพหุวัฒนธรรม สร้างขวัญกำลังใจแก่นักเรียนพลเมือง และเกษตรกรชาวนาในพื้นที่ โดยมี พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เดินทางเป็นประธานในพิธีพร้อมกับลงเกี่ยวข้าวร่วมกับชาวบ้าน และเกษตรกร กลุ่มมวลชนที่มาร่วมกิจกรรม สร้างความอบอุ่น  แสดงออกถึงความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ เป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่พี่น้องไทยพุทธ และมุสลิมอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

     โดยแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า “เมื่อรับทราบข่าวกิจกรรม ก็รีบตอบรับทันที ไม่ว่างก็ต้องว่าง เพราะเป็นกิจกรรมที่น่าสนใจ ดีใจที่มาร่วมกิจกรรมสำคัญนี้ ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ถือว่าเป็นนโยบายเร่งด่วน 1 ใน 5 งาน ที่ต้องดำเนินการ ให้สังคมมีความเป็นพหุวัฒนธรรม การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการช่วยแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ พัฒนาคุณภาพชีวิต สร้างสันติสุขในพื้นที่ “พลิกนาร้าง เป็นนารักษ์ ผูกรัก และสามัคคีกัน” ซึ่งปัจจุบัน เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ลดลง แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ เราสูญเสียมาไม่น้อยเลย ถ้าไม่ได้ความร่วมมือ แสวงหาทางออกจากเวทีต่าง ๆ ผ่านการขับเคลื่อนของสภาสันติสุขตำบล ทุกความต้องการของพี่น้องประชาชน เข้าสู่การทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐเข้าสู่กระบวนการตอบสนองต่อความต้องการของพี่น้องประชาชนแล้ว  ความสงบสุขและสันติสุขก็จะไม่เกิดขึ้น สันติวิธี และการหันหน้าคุยกัน จะสร้างความผูกพันธ์ แก้ปัญหาความรุนแรงได้ กิจกรรมวันนี้ถือเป็นการได้ปรับทุกข์ผูกมิตรกัน เป็นต้นแบบของความดีงามทางสังคมพหุวัฒนธรรม ให้คนภายนอกได้เห็นน้ำใจ ไมตรีของคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไทยพุทธ มุสลิม อยู่ร่วมกันได้ อย่างยั่งยืน

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า