กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย จากเหตุคนร้ายลอบยิง บริเวณสนามฟุตบอล พื้นที่ หมู่ 2 ต.ดาโต๊ะ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี

494

          จากเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนสงครามก่อเหตุยิงประชาชน ในงานแข่งขันกีฬาประจำปีองค์การบริหารส่วนตำบล คอลอตันหยง ณ บริเวณสนามฟุตบอล พื้นที่หมู่ 2 ตำบลดาโต๊ะ อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2567 เวลาประมาณ 18.30 น. เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย มีรายละเอียด ดังนี้

  1. ผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย ได้แก่

1.1 นายเชิดชัย พรมราชแก้ว อายุ 56 ปี ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลคอลอตันหยง

1.2 นายสิทธิชัย เพ็ชรสุริยา ผู้ใหญ่บ้าน บ้านไร่ หมู่ที่ 6 ตำบลคอลอตันหยง

  1. ผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย ได้แก่

2.1 นายมะกอเซ็ง  ดาโต๊ะ  อายุ 58 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกยกระสุนปืน บริเวณหน้าอกด้านซ้าย

2.2 นายณัฐศักดิ์  ศรียาน อายุ 38 ปี นักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย องค์การบริหารส่วนตำบลคอลอตันหยง ถูกกระสุนบริเวณเหนือเข่าขวา กระดูกหักกระสุนทะลุผ่าน

2.3 นางสาว สุริยาณี อาลี ได้รับบาดเจ็บบริเวณขาขวา

ซึ่งผู้บาดเจ็บได้ถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลปัตตานี เรียบร้อยแล้ว

          ภายหลังเกิดเหตุ พลโท ศานติ  ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้แสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ราย พร้อมทั้งสั่งการคุมเข้มพื้นที่ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ รวบรวมวัตถุพยาน และเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด โดยเน้นย้ำให้ทุกพื้นที่ ทุกฐานปฏิบัติการเพิ่มมาตรการควบคุมความปลอดภัย ต้องเพิ่มความระมัดระวัง สอดส่องดูแลไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความสูญเสียของกำลังพลเจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชน ใช้ปฏิบัติการเชิงรุก เพื่อจำกัดเสรีการก่อเหตุ คุมเข้มพื้นที่รับผิดชอบทุกตารางนิ้ว

          ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ หากผู้ใดพบเบาะแส หรือพบวัตถุต้องสงสัย แจ้งเบาะแสได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 โทร 061-1732999 หรือเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. 1341 และหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอเรียนให้ทราบว่าการให้ที่พักพิงหรือหลบซ่อนตัวแก่ผู้กระทำผิด เป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 ผู้ใดช่วยผู้อื่นซึ่งเป็นผู้กระทำความผิด หรือเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิด อันมิใช่ความผิดลหุโทษ เพื่อไม่ให้ต้องโทษ โดยให้ที่พำนักแก่ผู้นั้น โดยซ่อนเร้น หรือโดยช่วยผู้นั้นด้วยประการใด เพื่อไม่ให้ถูกจับกุม ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า