กอ.รมน.ภาค 4 สน. ปรับแผนสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนกรณีชาวบ้านหาของป่าถูกลอบทำร้ายที่ จ.นราธิวาส

79

             จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 17 มิ.ย.66 และ 20 มิ.ย.66 ชาวบ้านหาของป่าถูกผู้ก่อเหตุรุนแรงลอบวางระเบิดรถยนต์และลอบยิงในพื้นที่ อ.จะแนะ และ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส โดยทั้งสองเหตุการณ์มีผู้เสียชีวิตรวม 3 ราย ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย สร้างความวิตกกังวลให้แก่ประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผู้ที่นับถือศาสนาพุทธและผู้ประกอบอาชีพหาของป่า ภายหลังเกิดเหตุ พล.ท.ศานติ ศกุนตนาค มทภ.4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ได้ลงพื้นที่เยี่ยมปลอบขวัญประชาชนรวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บพร้อมร่วมเคารพศพแสดงความเสียใจต่อญาติผู้เสียชีวิต จากนั้นได้เข้าร่วมประชุมหน่วยงานความมั่นคง ณ หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เพื่อปรับแผนการรักษาความปลอดภัยแก่พี่น้องประชาชนให้มีความเข้มงวดและรัดกุมมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะต่อประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มผู้นับถือศาสนาพุทธ รวมทั้งผู้ที่เดินทางมาจากภายนอกพื้นที่เพื่อเข้ามาหาของป่า ทั้งนี้ได้สั่งการให้หน่วยเร่งชี้แจงสร้างความเข้าใจให้ทราบถึงอันตรายที่อาจเกิดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่หลบซ่อนอยู่ตามป่าเขา โดยเฉพาะในช่วงนี้ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนงดหาของป่าเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย พร้อมวางแผนเปิดปฏิบัติการเชิงรุกป่าภูเขาเร่งค้นหาจับกุมตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินการตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด รวมทั้งให้หน่วยปรับเปลี่ยนยุทธวิธีในการปฏิบัติให้มีความเหมาะสมกับสภาพแวดล้อม เพื่อที่จะสามารถดูแลประชาชนให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

            สำหรับวัตถุพยานที่ตรวจพบในที่เกิดเหตุทั้ง 2 เหตุการณ์ ประกอบด้วยเศษชิ้นส่วนวัตถุระเบิดและปลอกกระสุนปืนขนาด 5.56 มม. ของกลุ่มคนร้ายจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานได้ดำเนินการเก็บรวบรวมเพื่อตรวจสอบหาความเชื่อมโยงในการก่อเหตุต่อไป

               ทั้งนี้ กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนที่พบเบาะแสการก่อเหตุสามารถแจ้งเข้ามาได้ที่ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงประจำพื้นที่ หรือหมายเลขสายด่วนกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า หมายเลข 1341 หรือ หมายเลขโทรศัพท์สายตรง แม่ทัพภาคที่ 4 ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 หมายเลข 061-1732999 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งขอให้ละเว้นในการสนับสนุนกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การนำพาหลบหนี การให้ที่พักพิง การส่งเสบียง เป็นต้น เนื่องจากเป็นความผิดตามกฎหมายอาญามาตรา 189 ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า