เจ้าหน้าที่เร่งคลี่คลายเหตุลอบยิงด่านพงยือไร จนทำให้เจ้าหน้าที่เสียชีวิต 1 ราย ยืนยันดำเนินการตรวจสอบทุกมิติ ย้ำความจำเป็นของด่านในการสกัดกั้นการก่อเหตุในเขตเมืองยะลา พร้อมยกย่องวีรกรรมตำรวจผู้เสียสละชีวิต

          จากกรณีเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนลอบยิงบริเวณด่านตรวจพงยือไร อำเภอเมือง จังหวัดยะลา ส่งผลให้ ดาบตำรวจสังเวียน แก้วเพชร อายุ 48 ปี ผู้บังคับหมู่กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 43 เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 21.35 น. ของวันที่ 22 ธันวาคม 2568 โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุอาวุธปืนลั่นขณะทำความสะอาดอาวุธปืน และได้รีบนำตัวส่งห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลศูนย์ยะลา แต่แพทย์ตรวจพบว่าไม่มีสัญญาณชีพ และเสียชีวิต  ณ  ที่เกิดเหตุ พบรอยกระสุนปืนบริเวณเบ้าตาด้านขวา ลักษณะกระสุนไม่ทะลุ โดยภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างรัดกุม โดยนำร่างผู้เสียชีวิตส่งไปผ่าชันสูตรพลิกศพโดยแพทย์นิติเวช  ณ  โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา เพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตอย่างละเอียดและเป็นธรรม

          ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2568 เวลา 10.00 น. พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐานที่ 10 และฝ่ายสืบสวน เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุบริเวณจุดตรวจพงยือไรซ้ำอีกครั้ง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ผลการตรวจสอบไม่พบปลอกกระสุนปืนในที่เกิดเหตุ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบภาพจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดในพื้นที่ใกล้เคียง พบภาพลักษณะคล้ายแสงไฟจากปลายกระบอกปืนในช่วงเวลาที่สอดคล้องกับเหตุการณ์ และพบร่องรอยการเคลื่อนไหวของบุคคลในบริเวณดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้เก็บพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมในรัศมีประมาณ 136 เมตร โดยเบื้องต้นยังไม่พบปลอกกระสุนปืน ขณะเดียวกันแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ได้ดำเนินการชันสูตรศพอย่างละเอียด และเจ้าหน้าที่จะนำหัวกระสุนไปตรวจพิสูจน์เพิ่มเติมตามกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ พร้อมทั้งนำของกลางที่ตรวจยึดได้จากการตรวจสถานที่เกิดเหตุทั้งสองครั้งเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้สอบปากคำตำรวจที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่ในวันเกิดเหตุเพื่อประกอบการพิจารณาข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน

          ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ยืนยันว่าการดำเนินคดีอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนตามพยานหลักฐาน โดยได้ขยายประเด็นการตรวจสอบถึงความเป็นไปได้ในทุกสมมติฐาน รวมถึงประเด็นการถูกซุ่มยิง เพื่อให้เกิดความชัดเจน โปร่งใส และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่าย พร้อมย้ำว่าหน่วยงานด้านความมั่นคงให้ความสำคัญกับการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบคอบ และจะดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากมีความคืบหน้าเพิ่มเติมจะแจ้งให้ทราบต่อไป

          สำหรับด่านตรวจพงยือไรนับเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในการป้องกันและสกัดกั้นเหตุร้ายที่จะเข้าสู่เขตเมืองยะลา มีบทบาทสำคัญต่อการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง การก่อเหตุในพื้นที่ดังกล่าวจึงเป็นการมุ่งทำลายความมั่นคงและความปลอดภัยของประชาชนโดยตรง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของดาบตำรวจสังเวียน แก้วเพชร ซึ่งการเสียชีวิตในขณะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็ง ทุ่มเท และยืนหยัดปกป้องพื้นที่จนวาระสุดท้าย นับเป็นแบบอย่างแห่งความเสียสละเพื่อประเทศชาติและประชาชน พร้อมทั้งขอประณามการกระทำในลักษณะลอบทำร้าย ซึ่งเป็นการกระทำที่ขาดมนุษยธรรม ไม่หวังดีต่อพี่น้องประชาชน และบั่นทอนความสงบสุขของพื้นที่ พร้อมยืนยันว่าจะเร่งสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐานในทุกมิติ เพื่อนำผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด และสร้างความเชื่อมั่นด้านความปลอดภัยให้กับประชาชนต่อไป

          ทั้งนี้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องดูแลพื้นที่หากพบเห็นบุคคลต้องสงสัยหรือวัตถุต้องสงสัยหรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการติดตามผู้ก่อเหตุสามารถแจ้งเบอร์สายด่วน กอ.รมน.ภาค 4 สน. โทร. 1341 หรือหน่วยเฉพาะกิจใกล้บ้านได้ตลอด 24 ชั่วโมง และย้ำว่า ผู้สนับสนุนผู้ก่อเหตุรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการให้ที่พักพิง ซ่อนตัว หรือจัดหาเสบียง ถือว่ามีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 อาจถูกจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แม่ทัพภาคที่4

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า