ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมรองแม่ทัพภาคที่ 4 ประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย เร่งวางมาตรการช่วยเหลือประชาชนอย่างเร่งด่วน

          จากสถานการณ์ฝนตกต่อเนื่องครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอของจังหวัดสงขลา ทำให้หลายพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในวงกว้าง ประชาชนจำนวนมากประสบความเดือดร้อนและต้องการการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

          วันนี้ (24 พฤศจิกายน 2568) เวลา 08.30 น. ที่ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า ค่ายเสนาณรงค์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วย พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้ร่วมประชุมเพื่อประเมินสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำหนดแผนการช่วยเหลือและอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมี พลตรี ภูมเดชา พ่วงเจริญ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 /ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยมณฑลทหารบกที่ 42 พลเรือตรี ชยากร พันธ์หล้า เสนาธิการกองทัพเรือภาคที่ 2 พันเอก วาทยุทธ ชูช่วย รองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 42 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดสงขลา (ฝ่ายทหาร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม

          นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ระบุว่า จังหวัดกำลังติดตามปริมาณน้ำอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะคลองอู่ตะเภา ซึ่งเป็นคลองสายหลักของเทศบาลนครหาดใหญ่ที่มีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จากมวลน้ำเหนือที่ไหลลงมาสมทบ ทำให้หลายพื้นที่ในอำเภอหาดใหญ่และพื้นที่รอบข้างมีระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว

          ด้วยเหตุนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งระดมกำลังคน เครื่องจักร และยุทโธปกรณ์ด้านบรรเทาสาธารณภัยลงพื้นที่ทันที ทั้งการอพยพประชาชนจากจุดเสี่ยง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ให้มีการอพยพผู้ประสบภัยไปยังศูนย์พักพิงชั่วคราว

ผู้ว่าราชการจังหวัดย้ำว่า “ทุกหน่วยต้องช่วยประชาชนให้เร็วที่สุด ไม่มีพื้นที่ใดถูกทอดทิ้ง” พร้อมเน้นความสำคัญของการสื่อสารแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทุกคนสามารถเตรียมพร้อมและป้องกันความเสี่ยงได้อย่างทันท่วงที

         ด้าน พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองแม่ทัพภาคที่ 4 / รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า ฝ่ายทหารมีความพร้อมเต็มกำลังในการลงพื้นที่ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนตามสั่งการของแม่ทัพภาคที่ 4 โดยได้เร่งระดมกำลังพล พร้อมยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นต่อการปฏิบัติงานในสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่

ขณะนี้ได้จัดกำลัง รถบรรทุก FTS จำนวน 68 คัน ลงพื้นที่เสริมการปฏิบัติ เพื่อรองรับการขนย้าย อพยพประชาชน และลำเลียงสิ่งของบรรเทาสาธารณภัยให้ครอบคลุมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

          พร้อมกันนี้ หน่วยทหารภายใต้การปฏิบัติงานของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 4 ส่วนหน้า ยืนยันความพร้อมปฏิบัติภารกิจตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างทันท่วงที

ทหารมีไว้ทำไม  ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชนในทุกโอกาส

แม่ทัพภาคที่4

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า