จากสันติสุขสู่ความรุนแรงที่ไม่มีใครต้องการ จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นดินแดนที่มีทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมอาศัยอยู่ร่วมกันมายาวนานด้วยความเคารพและเข้าใจซึ่งกันและกัน ทุกคนต่างเคารพในความแตกต่างทางวัฒนธรรมและศาสนา ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันอย่างปกติสุข แต่นับตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้เข้ามาทำลายความสงบสุขที่มีมา พวกเขาใช้ความรุนแรงสร้างความหวาดกลัว โดยไม่เลือกว่าเหยื่อจะเป็นชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ทั้งพระสงฆ์ ครู อุสตาซ และประชาชนทั่วไป ต่างต้องตกเป็นเหยื่อของความโหดร้ายนี้
กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงยังคงมุ่งทำลายรากฐานสังคมและเศรษฐกิจของพื้นที่ชายแดนใต้ ผ่านการใช้ความรุนแรงต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้บริสุทธิ์ เพื่อสร้างความหวาดกลัวและบ่อนทำลายความเชื่อมั่นในสังคมพหุวัฒนธรรมที่อยู่ร่วมกันมายาวนาน เป้าหมายของพวกเขาคือทำให้ประชาชนไม่กล้าประกอบอาชีพ ไม่กล้าใช้ชีวิตตามปกติ และสูญเสียความไว้วางใจกันจนสังคมอ่อนแอ ตลอดปี 2568 กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ก่อเหตุอย่างต่อเนื่อง ทั้งลอบเผากล้องวงจรปิดในอำเภอกะพ้อ ทำลายเครื่องจักรของบริษัทเอกชนในนราธิวาส ลอบยิงและวางระเบิดขณะประชาชนเดินทางไปละหมาด รวมถึงลอบวางระเบิดบริเวณศูนย์เยาวชนเทศบาลนครยะลาในช่วงประเพณีชักพระ นอกจากนี้ยังมีการปล้นร้านทองในห้างบิ๊กซีสุไหงโก-ลก และลอบวางระเบิดตู้เอทีเอ็มธนาคารอิสลามฯ หน้ามหาวิทยาลัยฟาฏอนี เหตุการณ์เหล่านี้ไม่เพียงสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจ แต่ยังบั่นทอนความไว้วางใจระหว่างพี่น้องประชาชนที่อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขมายาวนาน
ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกันออกมาต่อสู้ และปฏิเสธความรุนแรงจากกลุ่ม BRN เพื่อที่เราจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข โดยร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล ร่วมป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และไม่ต้องกลัวผลกระทบจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งมีแต่ความโหดร้าย ใช้ความรุนแรงในการกดขี่พี่น้องประชาชนตลอดมา เพราะพลังของผู้บริสุทธิ์เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่
ไม่เอาBRN
ไม่เอาความรุนแรง
หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์
แม่ทัพภาคที่4
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า
ข่าวประชาสัมพันธ์
นายกรัฐมนตรี ห่วงใยเข้าเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ย้ำรัฐบาลพร้อมดูแลและให้การเยียวยาเต็มที่
วันที่ 11 ตุลาคม 2568 เวลา 14.50 น. ณ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4, นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ, นายทรงศักดิ์ ทองศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.), นายฐนัตถ์ สุวรรณานนท์ ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ, พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา หัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ และคณะฯ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมอาการของเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้กำลังใจและแสดงความห่วงใยต่อเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความกล้าหาญและเสียสละ
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้สอบถามถึงอาการบาดเจ็บของเจ้าหน้าที่แต่ละนายอย่างใกล้ชิด จำนวน 4 นาย...
หน่วยเฉพาะกิจยะลา เดินหน้าสานสัมพันธ์กับพี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ โดยเมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 9 ตุลาคม 2568 พันเอก ปัญญาพล สุรทิณฑ์ รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจยะลา ได้เข้าร่วมกิจกรรมเมาลิดสัมพันธ์ และร่วมรับประทานอาหารกับคณะครู นักเรียน และผู้นำท้องถิ่น การเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ เป็นการแสดงออกถึงความเคารพต่อประเพณีอันดีงามของศาสนาอิสลาม ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงจริยวัตรอันประเสริฐของท่านศาสดานบีมุฮัมมัด (ซ.ล.) ณ วิทยาลัยเทคโนโลยีบริหารธุรกิจยะลา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา
กิจกรรมเมาลิดสัมพันธ์ถือเป็นเวทีสำคัญที่หน่วยงานความมั่นคงใช้ในการ เสริมสร้างความเข้าใจและสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชุมชน อันเป็นรากฐานสำคัญในการนำสันติสุขกลับคืนสู่จังหวัดชายแดนภาคใต้
แม่ทัพภาคที่4
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
ข่าวประชาสัมพันธ์
นายกฯ “อนุทิน” บินลงใต้ ประชุมหารือและติดตามการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ และแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 ณ ค่ายสิรินธร จ.ปัตตานี
วันนี้ (11 ตุลาคม 2568) เวลา 11.00 น. ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี/รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย/ผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พร้อมด้วย พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอก สมศักดิ์ รุ่งสิตา หัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุข (คนใหม่) พร้อมด้วย รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องด้านความมั่นคง พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก/รองผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร และคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อตรวจเยี่ยมและรับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ พร้อมทั้งประชุมติดตามการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนใต้ และแผนปฏิบัติการปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 โดยมี พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมทั้ง หน่วยขึ้นตรงกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ตลอดจนส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมประชุม
...
พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรมมีประวัติศาสตร์ความเป็นมาอย่างยาวนาน ซึ่งพี่น้องชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมต่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กันทุกหนทุกแห่ง ได้ดำรงชีวิตร่วมกันมาอย่างมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเคารพในความแตกต่างของกันและกัน แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะตั้งแต่ปี 2547 เป็นต้นมา ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างความหวาดกลัวในหมู่ประชาชน โดยไม่เลือกปฏิบัติ ได้กระทำต่อทั้งพี่น้องทั้งชาวไทยพุทธและไม่เว้นแม้แต่พี่น้องชาวไทยมุสลิมต้องเผชิญกับความรุนแรงนี้ รวมไปถึงการทำร้ายพระภิกษุสงฆ์และครูบาอาจารย์ ที่ทำให้เกิดการสร้างความหวาดกลัวและความหวาดระแวงในพื้นที่มากขึ้น
ในปี 2568 ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้ก่อเหตุทำร้ายทั้งพี่น้องชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น การทำร้ายอดีตอุสตาซในจังหวัดนราธิวาส , การทำร้ายพระภิกษุสงฆ์และสามเณรในอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา , การกราดยิงพี่น้องชาวไทยพุทธในอำเภอตากใบ , การปล้นร้านทองภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซี อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส และการก่อเหตุวางระเบิดตู้เอทีเอ็มของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ความรุนแรงอีกหลายเหตุการณ์ สิ่งเหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดความหวาดกลัวและสร้างความหวาดระแวงระหว่างพี่น้องชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิมที่อยู่ในพื้นที่
ถึงเวลาแล้วที่เราต้องร่วมกันออกมาต่อสู้ และปฏิเสธความรุนแรงจากกลุ่ม BRN เพื่อที่เราจะได้กลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติสุข โดยร่วมกันเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแล ร่วมป้องกันไม่ให้ผู้ก่อเหตุรุนแรงสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน และไม่ต้องกลัวผลกระทบจากกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง ซึ่งมีแต่ความโหดร้าย ใช้ความรุนแรงในการกดขี่พี่น้องประชาชนตลอดมา เพราะพลังของผู้บริสุทธิ์เป็นพลังที่ยิ่งใหญ่
ไม่เอาBRN ไม่เอาความรุนแรง
หยุดทำร้ายผู้บริสุทธิ์
แม่ทัพภาคที่4
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
ข่าวประชาสัมพันธ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงให้การอุปถัมภ์กิจการศาสนาอิสลามอย่างต่อเนื่อง ต่อพสกนิกรในจังหวัดชายแดนภาคใต้
พี่น้องชาวไทยมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณและพระเมตตาอันหาที่สุดมิได้ของ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 10) ที่ทรงมีพระราชหฤทัยเปี่ยมด้วยพระเมตตาธรรม และทรงตระหนักถึงความสำคัญของการทำนุบำรุงพระศาสนาและสืบสานวัฒนธรรมอันดีงามของพสกนิกรทุกหมู่เหล่า ในการธำรงไว้ซึ่งความสงบสุข ความเข้าใจอันดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งพสกนิกรชาวไทยมุสลิมในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ทรงมีพระราชดำริในการส่งเสริมและสนับสนุนกิจการศาสนาอิสลาม ตลอดจนความอยู่ดีกินดีของพสกนิกรอย่างต่อเนื่อง
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานในงานสำคัญต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนาอิสลาม เช่น งานเมาลิดกลางแห่งประเทศไทย ซึ่งพระองค์ได้ทรงเสด็จฯ เข้าร่วมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 และยังทรงพระราชทานถ้วยรางวัลในการทดสอบการอัญเชิญพระมหาคัมภีร์อัล-กุรอาน ทั้งในระดับภาคใต้และระดับประเทศอย่างสม่ำเสมอ แสดงถึงพระราชหฤทัยที่ทรงให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมศาสนาอิสลามและคุณธรรมของเยาวชนมุสลิมไทย นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงสนับสนุนการศึกษาอย่างจริงจัง โดยการจัดตั้ง “มูลนิธิทุนการศึกษาพระราชทาน สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร” (ม.ท.ศ.) ซึ่งได้พระราชทานทุนการศึกษาแก่เยาวชนในพื้นที่ห่างไกลและขาดแคลน รวมถึงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ช่วยเปิดโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชนจำนวนมาก
สิ่งที่ตราตรึงในใจพสกนิกรชาวไทยมุสลิมคือ ความผูกพันที่พระองค์ทรงมีต่อพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะพระราชดำรัสว่า "ยังไงเราก็ต้องมา" ที่ทรงตรัสเมื่อครั้งเสด็จฯ ลงพื้นที่ ทำให้พสกนิกรในพื้นที่รู้สึกอบอุ่นใจและซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
พระองค์ยังทรงพระราชทานรางวัลแก่บุคลากรด้านการศึกษาในโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ที่มีความประพฤติดีและมีผลงานโดดเด่น ส่งผลให้เกิดแรงจูงใจและความภาคภูมิใจในวิชาชีพของครูและนักเรียนมุสลิมในพื้นที่ นอกจากนี้ พระองค์ยังทรงมีพระราชปณิธานที่จะสืบสานงานแปล พระมหาคัมภีร์อัล-กุรอาน ซึ่งถือเป็นภารกิจที่แสดงถึงการให้เกียรติและเคารพในหลักความเชื่อทางศาสนาอิสลามอย่างลึกซึ้ง
...
ข่าวประชาสัมพันธ์
กรมทหารราบที่ 151 ตรวจความพร้อมรับมือภัยพิบัติ “เตรียมพร้อมยืนหยัดเคียงข้างประชาชนในทุกสถารณ์”
เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2568 กรมทหารราบที่ 151 จัดพิธีเปิดการตรวจความพร้อมด้านการบรรเทาสาธารณภัย ประจำปี 2568 ณ กองบังคับการกรมทหารราบที่ 151 ค่ายกัลยาณิวัฒนา จังหวัดนราธิวาส เพื่อเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์สำหรับรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในช่วงฤดูมรสุมปลายปีในพื้นที่ภาคใต้ โดยพิธีดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้การนำของ พันเอก ทรงเดช สุกนุ้ย ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151 ซึ่งได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการเตรียมความพร้อมอย่างรอบด้าน ทั้งกำลังคน อุปกรณ์ช่วยเหลือ และการประสานงานกับหน่วยงานราชการ เพื่อให้สามารถเข้าช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงที หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น น้ำท่วม ดินถล่ม หรือภัยธรรมชาติอื่น ๆ
การตรวจความพร้อมในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในภารกิจตามนโยบายของกองทัพบก ที่ต้องการให้หน่วยทหารในทุกพื้นที่ทำหน้าที่เป็น “ที่พึ่งของประชาชน” ในยามเกิดภัยพิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งประสบภัยทางธรรมชาติเป็นประจำทุกปี ซึ่งมีการตรวจสภาพเครื่องมือ ยานพาหนะ และยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการช่วยเหลือประชาชน พร้อมทั้งให้โอวาทแก่กำลังพล เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจและความตระหนักในหน้าที่ของตนเอง
กองทัพพร้อมอยู่เคียงข้างประชาชน ขอให้ประชาชนสามารถมั่นใจได้ว่า เมื่อเกิดเหตุการณ์ภัยพิบัติในพื้นที่ กรมทหารราบที่ 151 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะสามารถเข้าช่วยเหลือและสนับสนุนการฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่และทันท่วงที ด้วยเป้าหมายเดียวกันคือ...
แม่ทัพภาคที่ 4 เน้นย้ำให้ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติงาน
อย่างรัดกุม รอบคอบ และนำความรู้ไปต่อยอดพัฒนา
โดยเฉพาะด้านการข่าวให้มีการวิเคราะห์เชิงลึก
เข้าถึงกลุ่มขบวนการได้มากขึ้น พร้อมกำชับกำลังพลชายแดน
เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจตรา และให้ทุกหน่วยสร้างความเข้าใจ
ในชุมชนผ่านสภาสันติสุขตำบล เพื่อให้ทหารเป็นที่พึ่งของประชาชน
ดูแลช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง
พลโท นรธิป โพยนอก
แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยคารรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
10 ตุลาคม 2568
แม่ทัพภาคที่4
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
ข่าวประชาสัมพันธ์
“ทหารพราน 44” ไม่ทอดทิ้งประชาชน ลงพื้นที่เยี่ยมผู้พิการ มอบความห่วงใย เติมกำลังใจให้สู้ชีวิต เพราะ “เราคือครอบครัวเดียวกัน”
วันที่ 11 ตุลาคม 2568 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 จัดกำลังพลชุดปฏิบัติการกิจการพลเรือน ลงพื้นที่เยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้พิการในพื้นที่ตำบลปากู อำเภอทุ่งยางแดง จังหวัดปัตตานี จำนวน 2 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยทางการเคลื่อนไหว ที่ต้องอาศัยการดูแลจากครอบครัวอย่างใกล้ชิด
การลงพื้นที่ในครั้งนี้ มุ่งเน้นการสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้พิการและครอบครัว พร้อมทั้งมอบเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และส่งต่อความอบอุ่นใจจากทหารสู่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล
นอกจากการให้ความช่วยเหลือแล้ว กำลังพลยังได้พูดคุยสอบถามสารทุกข์สุกดิบ รับฟังปัญหาความต้องการของครอบครัว เพื่อเป็นข้อมูลในการวางแผนให้ความช่วยเหลือต่อเนื่องตามภารกิจ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” อันเป็นหัวใจสำคัญของการปฏิบัติงานด้านกิจการพลเรือน
สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ที่พร้อมอยู่เคียงข้างประชาชนในทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากเพียงใด ทหารจะไม่ทอดทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง เพราะ “เราคือครอบครัวเดียวกัน” ที่พร้อมแบ่งปันรอยยิ้ม ความอบอุ่น และความหวังให้กันและกัน
แม่ทัพภาคที่4
ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า
ข่าวประชาสัมพันธ์
แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะกลุ่มเสื้อเขียว ชื่นชมความเสียสละ มุ่งมั่น ทุ่มเท ในการดูแลบ้านเกิดได้อย่างดียิ่ง
วันนี้ (10 ตุลาคม 2569) เวลา 15.45 น. ที่ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี กองพลทหารราบที่ 15 ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี คณะมวลชน องค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียง (กลุ่มเสื้อเขียว) ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และสี่อำเภอของจังหวัดสงขลา เข้าพบ พลโท นรธิป โพยนอก แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา เพื่อแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ พร้อมแนะนำตัวหารือการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
โดย นาย สมบูรณ์ จิตเพ็ญ ประธานองค์กรภาคประชาชนเพื่อสันติและเศรษฐกิจพอเพียง จังหวัดนราธิวาส ผู้แทนกลุ่มเสื้อเขียวฯ ได้กล่าวแสดงความยินดี พร้อมขอบคุณกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาโดยตลอด ที่ผ่านมาล้วนทำงานร่วมกัน มีความคุ้นเคยเสมือนคนในครอบครัวเดียวกัน พร้อมหวังให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ให้การสนับสนุนการทำงานของกลุ่มเสื้อเขียวต่อไป เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ด้าน พลโท นรธิป ...






Users Today : 712
Users Yesterday : 644
Users Last 7 days : 3802
Users Last 30 days : 19929
Users This Month : 16194
Users This Year : 131208
Views Today : 1008
Views Yesterday : 937
Views Last 7 days : 5645
Views Last 30 days : 31701
Views This Year : 255688

















