Home Blog หน้า 131
          เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.30 น. ณ วัดโมลีนิมิต (บ้านหรั่ง) ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี พลตรี ณรงค์ ตันติสิทธิพร ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วย พลตรี ฤทธิรณ ศรีภักดี รองผู้อำนวยการฯ และคณะเจ้าหน้าที่ฝ่ายอำนวยการ ร่วมกันประกอบพิธีถวายเทียนพรรษา พร้อมทั้งมอบเครื่องไทยธรรมและจตุปัจจัยแด่ พระครูนิมิตสุตคุณ เจ้าอาวาสวัดโมลีนิมิต           การจัดกิจกรรมในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสืบสานพระพุทธศาสนา อนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามของไทย เสริมสร้างความเป็นสิริมงคล และเพิ่มพูนขวัญกำลังใจให้แก่กำลังพลในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยจิตอันแน่วแน่และมั่นคงต่อไป แม่ทัพภาคที่4แม่ทัพไพศาล ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในใภาค4ส่วนหน้า
          วันที่ 18 มกราคม 2562 เป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์อันโหดร้ายที่สลักไว้ในความทรงจำของผู้คนในประเทศไทย และในหัวใจของชาวพุทธทั่วประเทศ เมื่อกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวน แต่งกายเลียนแบบทหาร บุกใช้อาวุธปืนกราดยิงภายใน วัดรัตนานุภาพ บ้านโคกโก ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส จนเป็นเหตุให้พระภิกษุมรณภาพถึง 4 รูป ประกอบด้วย พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ (ท่านหว่าง) เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ และเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี พระสมุห์อรรถพร ขุนอำไพ (ท่านอู๊ด) พระประเวศ สุขแก้ว (หลวงพ่อแดง) และ พระธนโชติ ชุมเลิศ (พระยาน) ในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์ที่ควรเป็นที่พึ่งทางใจของชุมชน           เหตุการณ์ครั้งนั้นไม่ได้เพียงคร่าชีวิตผู้บริสุทธิ์ แต่ยังสร้างบาดแผลลึกในจิตใจของผู้คนในพื้นที่ และสะเทือนต่อจิตสำนึกของสังคมไทยโดยรวม การกระทำดังกล่าวไม่เพียงเป็นอาชญากรรมต่อชีวิต แต่ยังเป็นการรุกรานต่อ ศาสนาและเสรีภาพในการนับถือศาสนา ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานในสังคมพหุวัฒนธรรม           BRN ที่ใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือ โดยเข้าโจมตีวัดและฆ่าพระภิกษุ ซึ่งไม่เพียงแค่สะท้อนเจตนาร้ายในการทำลายความมั่นคง แต่ยังเป็นการหวังผลให้เกิดความหวาดกลัว ความแตกแยก และอาศัยศาสนาเป็นเครื่องมือในการปลุกปั่น ทำลายรากฐานของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติของคนต่างศาสนาในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ ที่มีทั้งพุทธ มุสลิม และกลุ่มชาติพันธุ์อื่น ๆ อยู่ร่วมกันมานาน ไม่เอาBRNไม่เอาบีอาร์เอ็นไม่เอาความรุนแรงชายแดนใต้ แม่ทัพภาคที่4แม่ทัพไพศาล ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า  เนื้อข่าวภาษารูมี  BRN Merosakkan Agama dan...
   “พลังจากประชาชน คือ รากฐานของความมั่นคงที่ยั่งยืน การฝึกครั้งนี้...ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อฝึกทักษะด้านความมั่นคง แต่คือการปลูกฝังจิตสำนึกของพลเมืองผู้ปกป้องบ้านเกิด ความซื่อสัตย์ ความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นหัวใจสำคัญของราษฎรอาสาฯ ทุกคน ” ……………………………………………………………………………………….                         พลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ………………………………………………………………………………………. ตรวจเยี่ยมการฝึกทบทวนสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) และราษฎรอาสารักษาเมือง (อรม.) ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี (1 ก.ค.68) ไม่เอาBRN  ไม่เอาบีอาร์เอ็น  ไม่เอาความรุนแรงชายแดนใต้ แม่ทัพภาคที่4 แม่ทัพไพศาล ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า 🌍🌍 เนื้อข่าวภาษารูมี 👇👇 💚💚 "Kuasa daripada rakyat adalah asas kepada keselamatan yang berpanjangan. Latihan ini... bukan sekadar untuk meningkatkan kemahiran keselamatan, tetapi juga untuk menanamkan semangat kewarganegaraan dalam mempertahankan tanah air. Kejujuran, kesetiaan kepada negara, agama dan Raja adalah teras...
         “ส่งต่อข้อมูลสู่สาธารณะ” หรือการสร้างพื้นที่แห่งความเข้าใจ ภายใต้การมีส่วนร่วมพี่น้องประชาชนทุกคน นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางการปฏิบัติสำคัญในการเสริมสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมเข้มแข็ง ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า         เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2568 ที่ มูลนิธิศูนย์กลางเพื่อการพัฒนาอิสลามยะลา จังหวัดยะลา คณะขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่ยะลา (คพท.ยะลา) ได้จัดเวที “ส่งต่อข้อมูลสู่สาธารณะ การขับเคลื่อนงานคพท.ยะลา” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรายงานความก้าวหน้าของกระบวนการพูดคุยสันติสุขในระดับพื้นที่ พร้อมถ่ายทอดข้อมูล ข้อเสนอแนะ และเสียงสะท้อนจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องได้นำไปต่อยอด ขยายผลสู่ชุมชน นำไปสู่การแก้ไขปัญหา และสร้างสันติสุขอย่างยั่งยืนต่อไป โดยมี นายอิลฟาน ตอแลมา รองประธานคณะขับเคลื่อนการพูดคุยสันติสุขระดับพื้นที่ ร่วมบรรยายพิเศษ พร้อมด้วยผู้แทนจาก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้, หน่วยเฉพาะกิจตำรวจยะลา 91 และหน่วยเฉพาะกิจยะลา ร่วมสะท้อนมุมในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาและการพัฒนาในพื้นที่           สำหรับกิจกรรม เปิดเวที “ส่งต่อข้อมูลสู่สาธารณะ การขับเคลื่อนงาน คพท.ยะลา” ในครั้งนี้ ถือเป็นพื้นที่การส่งต่อข้อมูลที่สำคัญ ซึ่งเกิดจากการผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในการลงพื้นที่พูดคุยในชุมชนต่าง ๆ ที่ผ่านมา...
            วันนี้ (1 กรกฎาคม 2568) เวลา 09.00 น. ที่วัดบันลือคชาวาส (วัดช้างไห้ตก) อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี พลโท ไพศาล  หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการฝึกทบทวน สมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) และราษฎรอาสารักษาเมือง (อรม.) ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยมี พลตรี ณรงค์  ตันติสิทธิพร ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่วนราชการในพื้นที่ และสมาชิกราษฎรอาสาฯ ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและพร้อมเพรียง             โดยแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวแสดงความชื่นชมต่อความเสียสละและความมุ่งมั่นของผู้เข้ารับการฝึก พร้อมให้โอวาทที่เปี่ยมด้วยพลังใจว่า “การฝึกครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อฝึกทักษะด้านความมั่นคง แต่คือการปลูกฝังจิตสำนึกของพลเมืองผู้ปกป้องบ้านเกิด ความซื่อสัตย์ วินัย และความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ เป็นหัวใจสำคัญของราษฎรอาสาฯ ทุกคน”             ซึ่ง แม่ทัพภาคที่ 4 ยังได้เน้นย้ำถึงการนำองค์ความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดสู่พื้นที่ของตนเอง เพื่อสร้างเครือข่ายความมั่นคงภาคประชาชนให้เข้มแข็งอย่างยั่งยืน...
        จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2565 คือเหตุการณ์คนร้ายลอบวางระเบิดริมถนนทางหลวงหมายเลข 4066 ในพื้นที่ บ้านบือแนลือโบะ ตำบลสุวารี อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส โดยเหตุการณ์ดังกล่าวมุ่งหวังทำร้ายเจ้าหน้าที่ซึ่งปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเพื่อรักษาความปลอดภัยครูในพื้นที่ แต่เกิดระเบิดก่อนเวลา จึงไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมพื้นที่ปิดกั้นที่เกิดเหตุ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชนเพิ่มเติมและเข้าตรวจสอบวัตถุพยานรวบรวมหลักฐานต่าง ๆ  ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินติดตามและขยายผลเพื่อหาตัวกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จนสามารถนำไปสู่การควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ทั้งสิ้น 8 ราย จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อดำเนินกรรมวิธีในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป          เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2567 ศาลจังหวัดนราธิวาส (ชั้นต้น) พิพากษา “จำคุกจำเลยทั้งแปด คนละ 33 ปี” ความผิดฐานก่อการร้าย อั้งยี่ ซ่องโจร สะสมกำลังพลฯ ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ร่วมกันพยายามฆ่าเจ้างานซึ่งกระทำการตามหน้าที่โดยไตร่ตรองไว้ก่อน พระราชบัญญัติอาวุธปืนและวัตถุระเบิดฯ เนื่องจากโจทก์มีพยานหลักฐานที่เชื่อว่าจำเลยคือกลุ่มคนร้ายในคดีนี้ ทั้งในชั้นพิจารณาจำเลยก็ให้การยอมรับว่าได้ร่วมลงมือก่อเหตุวางระเบิด พิพากษาจำคุกจำเลยทั้งแปดตลอดชีวิต แต่จำเลยทั้งแปดให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้ละกึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยทั้งแปด คนละ 33 ปี (ขังจำเลยทั้งแปดคน ระหว่างอุทธรณ์)          ต่อมา เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 ศาลจังหวัดนราธิวาส...