“คนไทยไม่ทิ้งกัน” ศอ.บต. นำทีมลงพื้นที่เยี่ยมและกำลังใจ น.ส.นูรฮาลีซา เจะอาแว หญิงไทยวัย 18 ปี คลอดก่อนกำหนดที่ประเทศมาเลเซีย เตรียมต้อนรับบุตรสู่อ้อมกอด 1 ส.ค.63 นี้

890

            จากกรณีนางสาวนูรฮาลีซา  เจะอาแว อายุ 18 ปี ลูกจ้างร้านอาหารต้มยำกุ้งในมาเลเซียได้คลอดลูก ณ โรงพยาบาล Kajang รัฐสลางอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ผ่านมา โดยเป็นการคลอดก่อนกำหนด ซึ่งมีน้ำหนัก 1.2 กิโลกรัม ทำให้เด็กมีอาการป่วยต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด จากนั้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา นางสาวนูรฮาลีซา  เจะอาแว เดินทางกลับประเทศไทย เพื่อดำเนินการต่อวีซ่า ที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา และเข้าประเทศมาเลเซียไม่ได้ เนื่องจากได้มีการประกาศปิดประเทศจากสถานการณ์โควิด – 19 ที่กำลังระบาดตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา ทำให้นางสาวนูรฮาลีซา  เจะอาแว ต้องเดินทางกลับบ้านที่จังหวัดปัตตานี และได้ห่างจากลูกเป็นเวลา 5 เดือน และได้วอนขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ

             โดยเมื่อ วันที่ 29 กรกฏาคม 2563 พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วย นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นางกนกรัตน์ เกื้อกิจ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (พม.) และหัวหน้าส่วนราชการในพื้นที่ ลงพื้นที่ บ้านเลขที่ 43 /1 หมู่ที่ 1 ตำบลกะรุบี อำเภอกะพ้อ จังหวัดปัตตานี เพื่อเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและติดตามความคืบหน้าถึงการช่วยเหลือ นางสาวนูรฮาลีซา  เจะอาแว หญิงไทยวัย 18 ปี ที่คลอดลูกในโรงพยาบาล ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง ศอ.บต. ได้ประสานไปยังสถานเอกอัครราชฑูตไทย (สอท.)  ณ  กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เพื่อนำเด็กกลับมาอยู่กับครอบครัว โดยมีการดำเนินงานร่วมกันระหว่างประเทศ และโอนเงินมัดจำไปยังโรงพยาบาลประเทศมาเลเซียเพื่อรับตัวเด็กมาอยู่ที่สถานทูตก่อน หลังจากนั้นก็จะมีการโอนเงินอีกครั้งตามเต็มจำนวนที่โรงพยาบาลแจ้ง เพื่อสามารถนำเด็กกลับประเทศไทย โดยมีกำหนดที่จะนำกลับมายังประเทศไทย ในวันที่ 1 สิงหาคม 2563 นี้ ที่ ด่านสะเดา จังหวัดสงขลา

             พลเรือตรี สมเกียรติ  ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวถึงการลงพื้นที่ในครั้งนี้ว่า เป็นการมาเยี่ยมเยียนให้กำลัง ใจในฐานะหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ที่ไม่ทอดทิ้งคนไทยด้วยกัน และพร้อมช่วยเหลือในด้านการส่งเสริมอาชีพ ตลอดจนความเดือดร้อนในทุกด้านอย่างสุดความสามารถ

              ด้านนางสาวนูรฮาลีซา  เจะอาแว หญิงไทยวัย 18 ปี ที่คลอดลูกในโรงพยาบาลของประเทศมาเลเซีย ได้กล่าวถึงความรู้สึกในครั้งนี้ว่า รู้สึกดีใจที่ตนจะได้เจอหน้าลูกซึ่งหากไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานภาครัฐ ตนคิดว่าอาจจะเป็นการยากในการเจอหน้าลูก ซึ่งต้องขอขอบคุณทาง ศอ.บต. ที่ได้มอบเงินช่วยเหลือจำนวน 50,000 บาท รวมไปถึงส่วนราชการ สื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่ที่ได้ให้การช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง จนทำให้มีเงินเข้ามาเป็นค่ารักษาพยาบาลกว่า 240,000 บาท

ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ศูนย์ประชาสัมพันธ์

กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค4ส่วนหน้า